6 สัญญาณอันตรายว่าแฟนมี "กิ๊ก"

ไดหน้านี้ขอเขียนเรื่องกิ๊ก ที่…….

.

.

บางคนกล้าทำ กล้ามี กล้าเป็น (((แต่ไม่กล้าแฉ))

บางคนอยากรู้ ((แต่หาคำตอบไม่ได้ ว่าแฟนมีกิ๊กมั๊ย))

บางคนรู้แล้ว ((แต่กะลังหลอกตัวเอง ว่ากิ๊กก็คือกิ๊ก ไม่มีทางเป็นตัวจริงได้ ปล่อยมันไป))

บางคนโง่ ไม่รู้จักสังเกตุ ((ว่าแฟนของตัวเองมีอะไรเปลี่ยนแปลง))

บางคนอยากสะกัด กำจัด ทำลาย พวกกิ๊ก ((แต่ไม่รู้จะทำไง ด้านม๊ากกก))

บางคนอยากเลิก ((แต่ทำไม่ได้ซะที))

บางคนอยากเอาชนะ ((แต่สุดท้ายก็แพ้))

บางคนคิดว่าแพ้แล้ว ((แต่ดันชนะซะงั้น))

บางคนอยากลืม ((แต่เสือกจำ))

บางคนหน้าด้าน ((ทำทุกทางเพื่อแย่งชิง))

บางคนยอมปล่อยแล้วนะ ((แต่แมร่งเกาะติดเป็นปลิงควายเลย))

.

.

นี่เป็นแค่บางคน บางส่วนเท่านั้น

เหล่านี้ คือ ผลพวงของบ่วงกรรม ที่มี 3 ชีวิตเป็นตัวหลักของวงจรอุบาทว์นั้น

คือ มรึง กรุ และ มัน !!!!

พูดให้เพราะหน่อยก็ เธอ ฉัน และท่านกิ๊ก

.

.

ทำไมวันนี้ถึงกล้าเอาเรื่องนี้มาพูดได้

ก็เพราะว่า เคยมีประสบการณ์ตรง และประสบการณ์อ้อมนะสิค่ะ

ไม่งั้นจะมาพูดทำไมให้เหนื่อย

ฉลาดแต่ทฤษฏี คงไม่ไหว ภาคปฏิบัติก็ผ่านมาแล้วคร๊าบบบบ 555+

.

.

เอาล่ะ...คราวนี้ก็.....

ใครเคยมีกิ๊ก ย๊กมือขึ้นนนนนนนน!!!!!!!!!!

.

.

.

-_-“ เงียบ

.

.

ไม่มีใครกล้ายอมรับเหรอ นี่ว่าเคยมีกิ๊ก อิอิ ^^

.

.

แต่ถ้า ถามพิม

.

.

วู้ๆๆๆๆ \o/ ยกมือขึ้น 2 มือเลยค่ะ

.

.

ยอมรับแบบหน้าไม่อายว่า!!!!.....เคยมี แหะ แหะ -_-“

.

.

ไม่ได้ภูมิใจในความ.........((ดีน้อย)) หรอกนะ

แต่ว่าก็แค่กล้ายอมรับความจริงเท่านั้นเอ๊ง 5555+

.

.

อ้อ!!! นอกจากจะเคยมีกิ๊กเองแล้ว

พิมก็เคยคบคน ที่แอบซ่อนกิ๊กไว้ด้วยนะ

และแถมเคยตกอยู่ในฐานะของกิ๊กมาแล้วด้วย ((โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม))

.

.

โอ้วววว แม่จ้าวววว!!!! เกิดมาคุ้มจริงๆกรุเนี่ย

.

.

ดังนั้นก็เลยพอจะสรุปให้ถึงพฤติกรรมพวกที่ซ่อนกิ๊กได้ไม่มากก็น้อย

.

.

เผื่อบางคน กะลังสงสัยว่า

“แมร่ง มีกิ๊กป่ะว่ะเนี่ย?????”

“นอกใจกรุอยู่ป่ะว่ะ สันดานนนน!!!”

.

.

จะได้เอาไปวิเคราะห์ดูนะค่ะ

เผื่อจะเอาไป พิจรณาคนข้างตัวได้

.

.

ใครที่กำลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่าย ที่จะกล่าวต่อไปนี้

ขอเตือนไว้ ว่าคุณจะเนียนไปแบบนี้ได้ไม่นาน 5555+ ซักวันความจริงจะปรากฏเอง

.

.

1. โทรศัพท์

เรื่องโทรศัพท์กะเรื่องกิ๊กเนี่ย มันคู่กั๊นนนน คู่กัน

มันเป็นด่านแรก ที่เราจะเข้าสู่หนทางวิปโยกได้

.

.

ในขณะที่เรามีกิ๊ก เมื่อเราอยู่กะแฟนตัวจริง

โทรศัพท์จะเข้าสู่โหมด “สั่น”แมร่งอย่างเดียวทันที!!

.

.

ซ้ำร้ายกว่านั้น มันจะลุกลามถึงขั้นสู่โหมด ไม่มีสั่น ไม่มีเสียง ไม่มี ปิ๊ด

ไม่มีเหี้ยอะไรเลย เพราะมันปิดเครื่องไปเลย จบข่าว 5555+

.

.

บางคน ไม่ปิดเครื่องนะ และไม่ทำสั่น ไม่ทำเสียง

แต่พฤติกรรมการวางโทรศัพท์จะเปลี่ยนไป

เค้าจะวางโทรศัพท์แบบคว่ำหน้าไว้ พอมี SMS หรือ calling มา แฟนก็ไม่รู้ไง

แต่เจ้าตัวจะสังเกตุบ่อย ถ้ามีแสงวะวาบๆ เหมือนแสงจากผีลากไส้

นั่นแหละ...อีกระสือ ห่ารากไส้ตัวนั้นติดต่อมาแน่นอน หึหึ

.

.

คนแอบมีกิ๊ก ตัวจะติดกับโทรศัพท์ตลอดเวลา

คือไม่ว่าจะไปไหน จะขี้ จะเยี่ยว จะนอน จะไปเซ่เว่น จะไปคืนวีดีโอ

((ใช้เวลาสั้นๆแค่เนี๊ยะ แต่ต้องหยิบโทรศัพท์ติดมือ))

ทั้งนี้เพื่อเอาไว้แอบส่งหรือเช็ค SMS หรือเอาไว้เช็คข้อมูลการโทร

แต่ที่แน่ๆ เอาไว้กับตัวเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า 555+

บางรายหนักมากเวลานอนเอามาซ่อนไว้ใต้หมอนเลย ((กลัวเกิ๊นนนน!!!))

.

.

เพราะอะไรรู้ป่ะ

พิมเคยจับได้ว่าแฟนมีกิ๊ก ก็เพราะว่า จู่ๆเกิดไปเจอ Missed call เบอร์นึง ณ. เวลา ตี 3

((ลุกขึ้นมาฉี่ไง อิแฟนก็หลับเป็นตาย โทรศัพท์ ปิดเสียง ปิดสั่นวางไว้ แต่เจอแสงไฟวะวาบวะวาบ))

**หมายเหตุ พวกกิ๊กนี่จะโรคจิต ชอบยิงมาเวลาดึกๆ หมายมั่นจะบอกเป็นนัยๆว่า

“หนูคิดถึงพี่จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เกิดหงี่ คิดถึงพี่ขึ้นมาตอนนี้ซะงั้น”

((เจตนาของ she ไม่ได้จะบอกว่า อยากคุยกะพี่ตอนตี 3 หรอกนะ แต่แค่จะสื่อว่า “คิดถึงผัวชาวบ้าน” แค่นั้นเอง))

.

.

ดังนั้นการซ่อนมือถือไว้ใต้หมอน ดูจะปลอดภัยที่สุด

.

.

และอีกอาการที่ตามมาคือ

แฟนจะหวงโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นชีวิต จิตใจ

เมื่อก่อนเหรอ เปิดเผย อยากดูอะไร อยากเล่นเมนูไหน เชิญคร๊าบบบบ ผมบริสุทธิ์ใจ

แต่พอมีกิ๊ก “หวง” โทรศัพท์ขึ้นมาซะงั้น

อ้างโน่น อ้างนี่ อ้างความเป็นส่วนตัว อ้างต้องมีมารยาท อ้างว่าเค้ายังไม่เคยวุ่นวายกะโทรฯของตะเองเลยนะ

อ้างห่าเหวอะไรนักหนาไม่รู้ อ้างซะจน กรุไม่กล้าแตะ กลัวโดนเตะ 555+

((คิดไปคิดมา มันเกิดอยากให้กรุมีสมบัติผู้ดีขึ้นมาซะงั้น ต้องมีมารยาทค่ะ ต้องมีมารยาท ท่องไว้ โง่ไว้ ท่องไว้ โง่ไว้))

.

.

แต่!!!! ถ้าเราสามารถเอามือถือแฟนมาเช็คอะไรต่อมิอะไรได้

ขอโทษเถอะ!!! คุณจะไม่เจอส้นตรีนอะไรหรอก

.

.

ไม่ว่าจะเป็น SMS เบอร์ที่ได้รับ เบอร์ที่ไม่ได้รับ เบอร์ที่โทรออก

จะไม่เจอห่า อะไรเล๊ยยยยยย เพราะ...มันลบหมดแล้ว -_-“

.

.

ไอ้ที่ฉลาดๆหน่อยก็ลบ แบบ ลบเฉพาะข้อมูลของกิ๊ก

บางรายฉลาดล้ำถึงขั้น โทรไปเบอร์ปลอดภัย ((เบอร์ไหนก็ได้))

เพื่อเปลี่ยนตัวนับเวลาในการใช้สาย

คือก่อนหน้าโทรคุยกะกิ๊กมา 1 ชม. แล้วไง เดี๋ยวไม่เนียน ((พวกนี้ เนียนขั้นเทพนะ เจอมาแล้ว))

.

.

บางรายโง่ๆ ก็ ลบข้อมูลทุกสิ่งอัน แมร่งหมดเลย -_-“

แล้วอ้างว่า โทรฯมีปัญหาบ้าอะไรไม่รู้ จู่ๆ แบตก็ดับ ข้อมูลหายหมด

บ้างก็อ้างว่า เปลี่ยนซิมกะเพื่อน บางทีก็อ้างว่า โทรศัพท์หล่นพื้น แบตกระจาย อะไรๆก็หายหมด

55555+ ถ้าเจออย่างนี้ ไอ้ 1-2 ครั้ง ก็พอจะเชื่อนะ แต่บ่อยๆชักเห็นแล้วแหละ ว่าผิดปรกติ

((อย่างนี้เนียนแบบน้ำขุ่นๆ ไม่เทพเลยจะบอกให้))

.

.

แต่บางคนก็กล้านะ เวลากิ๊กโทรมา ก็รับโทรเลยคุยมันต่อหน้าเลย

แต่...จะคุยแบบว่า ฟังดูแล้ว เพื๊อนนนนน เพื่อนนนนน

Show off ให้เห็นเต็มที่ว่า คุยกะเพื่อนนะค๊า คุยกะเพื่อนจริงๆ

((ก็เชื่อไปสิค่ะ คุ๊ณณณณณ))

.

.

แต่บางคนก็เนียนไม่ไหว เดี๋ยวโดนจับได้

รับโทรกิ๊กนะ แต่โน่นนนนเลย เดินไปคุยไกลๆจากรัศมีอำมหิตย์จากแฟน

แต่ก่อนรับจะบอกก่อนว่า “ขอคุยเรื่องงานนิดนึงนะ ท่าทางงานจะเจอปัญหา”

แล้วเดินทำหน้าซีเรียสๆ ออกไปคุยไกลๆ

((ทำกรุเชื่อ อีกแระนะสาดดดดด))

.

.

มาพูดถึงชื่อที่เม็มเบอร์ไว้ ก็จะใช้กลุยุทธิ์แตกต่าง แล้วแต่วิธีการ

แต่ง่ายๆ และเนียนที่สุดก็คงจะต้อง เม็มเป็นชื่อเพื่อนที่โครตสนิท เน้นนะ ต้องเอาแบบสนิทๆ

คุณจะสังเกตุได้จาก เพื่อนของแฟนคนนี้ แมร่งมีหลายเบอร์จังว่ะ

เช่น อิปาล์ม1 , อิปลาล์ม2, อิปาล์ม3, อิปาล์ม4

โอ้ววววว แม่เจ้า อิปาล์ม นี่มรึงมีหลายเบอร์จริงๆ ((นั่นเพราะ เบอร์กิ๊ก ซ่อนอยู่ 1 ในนั้นไง ))

.

.

แต่อีกวิธีก็ เม็มเป็นชื่อคนที่ต้องติดต่อเรื่องงานไว้เลย

เช่น หนุ่ม Warehouse, พี่เล็ก KEC, อ้อม office ((เหล่านี้แหละ จะต้องมีเบอร์กิ๊กซ่อนไว้แน่นอน))

.

.

คุณขรา ถ้ากิ๊กโทรมา ถามว่าเจอ Calling โชว์ชื่อแบบนี้ คุณจะกล้าวุ่นวายกะแฟนคุณมั๊ย???

นั่นก็เพื่อนสนิท นี่ก็เรื่องงาน

.

.

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ช่างเถอะค่ะ เพราะยังมีอีกแบบคือ

ไม่เม็มเป็นชื่อหรอก อาศัยจำเบอร์เอา ถ้ากิ๊กโทรมาแล้วอยู่ต่อหน้าแฟนแล้วไม่สะดวกจะรับ

ก็มักจะพูดว่า

“เบอร์ใครว่ะ ไม่รับดีกว่า เบอร์แปลก” น๊านนนน!!!!

แต่ถ้าเป็นชื่อเพื่อนก็จะอ้างว่า “ค่อยโทรหามันก็ได้”

แต่ถ้าเป็นชื่อเรื่องงานละก็ “บ้าป่ะเนี่ย นี่เวลาหลังเลิกงานนะเว้ย ไม่รับดีกว่า”

เป็นไงค่ะอาการมันจะเนียนไปได้เรื่อยๆ คือไม่รับหรอกถ้าคุณอยู่

แต่จะแอบโทรกลับแน่นอน ถ้าคุณเผลอ

.

.

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะรับ แล้วก็จะพูดสั้นๆง่ายๆว่า

“อืม....มีไร.....อืมๆ..........โอเคๆ......”

.

.

เค้าจะพูดแค่นี้แหละค่ะ แล้วก็วาง

คราวนี้ถ้าเจอคำถามเจ๊าะแจ๊ะจากแฟน

ก็ตอแหล เนียนไปนะแล้วแต่เบอร์ที่โชว์ว่าจะตอแหลแบบไหนแหละ

.

.

อ้อ...อีกอย่างสังเกตุได้ไม่ยาก

เวลาคุณโทรไปหาแฟน แล้วหน้าจอโชว์ “waiting calling” หรือ “รอสาย” เป็นเวลานานๆ

นั่นแหละจะบอกให้ สัญญาณอันตราย นะจ๊ะ

.

.

เฮ่อ.......เรื่องโทรศัพท์กะกิ๊กเนี่ย ยาวสุดค่ะ -_-“พูดไปก็ไม่จบง่ายๆ แต่เอาแค่นี้พอ

.

.

2. ญาติเยอะ งานแยะ

ไอ้พวกแอบมีกิ๊กเนี่ย สังเกตุง่ายๆว่า

พี่ท่านจะเกิดมีญาติพี่น้อง หรือเพื่อนร่วมงานเข้ามาพัวพันกะชีวิตเสียเหลือเกิน

ไม่ว่าจะตอนเย็นๆ หลังเลิกงาน กะวันหยุด ส-อา หรือ นักขัตฤกษ์

กะเวลาว่างๆของเค้า ที่เคยเป็นของเราตลอดเวลา

ไม่ว่าจะเป็น ….

...พาแม่ไปวัด ((เกิดอยากทำบุญขึ้นมาซะงั้น))

...พาหมาไปหมอ ((หมาดันป่วยกระทันหัน))

...ไปรับลูกป้าที่ขนส่งหมอชิต ((ไกลหน่อยก็รับโน่นเลย สุวรรณภูมิ))

...เย็นนี้มีกินข้าวกับครอบครัว ((อยู่กันครบทั้งบ้าน ขาดเค้าไม่ได้นะ))

....เสาร์-อาทิตย์ คุณยายอยากไปทะเลกะหลานๆ ((มีแต่เด็กๆกะคนแก่ น่าเบื่อออก))

...พาลูกน้า ไปหาพ่อเค้าที่อยุธยา ((ไปมันจ.ที่ไม่ไกล้ไม่ไกลนี่แหละ))

...ไปงานแต่งพี่ชาย ญาติเต็มรถเลย ไม่มีที่ให้ตะเองนั่งหรอก ((ญาติสำคัญกว่าแฟนขึ้นมาในทันที))

....เพื่อนร่วมงานได้ตั๋วหนัง หรือตั๋วคอนเสริต์ฟรี (( เค้าให้พาไปเป็นเพื่อนนี่นา ฟรีด้วยนะ))

....ประชุมกะที่ทำงานถึงค่ำเลยวันนี้ (( 2 ทุ่มก็ยังประชุมอยู่))

...ไปกินเลี้ยงกะที่ทำงานนะ กลับดึกไม่ต้องตาม ((1 เดือน กินเลี้ยงแมร่ง ทุก 2 อาทิตย์))

...ที่ทำงานเจ้านายเฮี๊ยบมาก ไม่ให้คุยเวลางานนะ ((เอาเวลาไปคุยโทร หรือเล่นเอ็มกะกิ๊ก ดีกว่า)) ...ไปเที่ยว ตจว. กะที่ทำงานนะจ๊า ((ลัล ลั้ล ลา สบ๊าย สบาย))

.

.

เป็นไงค่ะ นี่แค่ข้ออ้างพื้นๆเท่านั้นนะ

เค้าจะสามารถหาข้ออ้าง ที่เอาญาติมาเกี่ยว เอาเพื่อนมาร่วม เอางานมาข้องได้อย่าง……

.

.

หน้าด้านๆ

.

.

ทีเมื่อก่อนนะ ไม่มีเราไปด้วยเหมือนจะขาดใจตายห่า อยากให้เกาะกันไปดั่งปาท่องโก๋

พอมีกิ๊ก วิธีที่จะชิ่งเราได้มากแค่ไหน ก็ต้องระดมสมอง สร้างนิยายมาร้อยแปด

.

.

3. เด็กอานามัย

ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ได้อยู่ด้วยกันกะแฟน

สังเกตุได้ทันทีว่า ค่ำมาเค้าจะเป็นเด็กอานามัยทันที

คือ ….

...วันนี้แม่บอกให้นอนเร็วนะค่ะ

....วันนี้ไม่สบายค่ะวันนี้กินยาแก้แพ้ไป ง่วงมากจะหลับแล้วค่ะ

....ขอนอนก่อนนะ เหนื่อยมากๆ

.....วันนี้เข้านอนเร็วนะ พรุ่งนี้ต้องไปธุระกับแม่แต่เช้า

.

.

ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนมายาเพียวๆ

((อาการเวลาคุยแล้วบอกว่าจะนอนเนี่ยต้องทำเสียง งัวเงียๆ อิ้อๆ บื้อๆด้วยนะ))

.

.

** หมายเหตุ ครั้งนึง พิมเคยโกหกแฟนว่าจะนอนแล้ว แต่ดันไปเที่ยวกะกิ๊ก

แต่แมร่งโทรมาหาดึกไง ไอ้เราก็อยู่ในผับแล้ว

พอมีสายเข้ามาเท่านั้นแหละ

วิ๊งๆๆๆๆๆๆๆ วิ่งๆๆๆๆๆ ไปที่รถ ปิดประตูแล้วเอนตัวลงนอนที่เบาะ ((กลัวไม่เนียน))

พร้อมกลับทำเสียงงัวเงียๆว่า “อืมมม......จะนอนแล้วค่ะ” ((แต่จริงๆหอบแห่กๆ))

5555+

.

.

.

เอาล่ะ....หลังจากที่คุณกล่าวคำว่า “ราตรีสวัสดิ์ครับ ทูลหัว”

.

.

แฟนของคุณก็จะรีบกระเด้งดึ่งมาจากที่นอน

เพราะต้องรีบแต่งตัวแต่งหน้า เพื่อไป dance อย่างสุขโข สุขขีทันที((นัดกิ๊กไว้หนิ))

กรณีนี้ จะปิดเครื่องเลย

.

.

แต่ถ้าไม่ได้ไปเที่ยว แต่จะคุยโทร ต้องปล่อยเวลาให้ตายใจก่อนอย่างน้อย 1 ชม.

ค่อยโทรจ๊ะจ๋า กะกิ๊กได้นะจ๊ะ

.

.

4. การจราจรติดขัด

หลายต่อหลายครั้ง ที่พิมจะเจอว่า เมื่อแฟนมีกิ๊ก

เค้าจะใช้เวลาในการเดินทางกลับบ้าน

ยาวววววว นานนนนนน กว่าปรกติ

โดยอ้างสารพัดว่า

...รถติด ((ใช้ได้ทุกทีสิหน่า))

...ฝนตกหนัก ไปเร็วไม่ได้

...ข้างหน้า รถชนกัน เนี่ยติดแหง็กบนถนนเนี่ย

...รถเป็นไรไม่รู้ จู่ๆ ก็สตาร์ทไม่ติด

...ขึ้นรถหลายต่อค่ะ รอรถแต่ละคันนานมากๆ

....รถเมล์ คนเยอะทุกคันเลย ไม่อยากยืน รอคันว่างๆก่อนนะจะได้นั่ง

....เจอประท้วงง่ะ โดนปิดถนน ไปไม่ได้ แง๊ๆๆ Y^Y

.

.

เป็นไงค่ะ เค้าจะพยายามดึงเวลาให้ยาวววววที่สุดเพื่อที่จะได้อยู่กะกิ๊ก หรือ โทรคุยกะกิ๊ก

.

.

5. ขอความเป็นส่วนตัว และขี้หงุดหงิด

พอใครซักคนจะมีกิ๊ก เค้าจะกลายเป็น คนที่มีโลกส่วนตัวสู๊งงงงงง

สูงมั่กๆ ประเภทแบบ

....อยากอยู่คนเดียว

....ต้องการอิสระ

....อยากไปไหนมาไหนกะเพื่อน

...ไม่อยากคุยโทรนานๆ

....อยากนอนยาวๆ ....ตอนนี้เครียดมาก อย่าพึ่งยุ่งได้มั๊ย ขอล่ะ

.....อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว

.

.

สารพัดจะอยากขอปลีกวิเวก

.

.

นั่นแหละคุณเอ๊ย!!!!! จริงๆแล้ว มันอยากไสหัวคุณไปไกลๆแล้วแหละคร๊า

.

.

6. ของสิ่งนี้ ท่านได้แต่ใดมา หรือจู่ๆพอได้ยินเพลงนี้ก็ยิ้มขึ้นมาซะงั้น

เคยมั๊ยค่ะ ที่พอเราอาจไม่ได้เจอแฟนซักพัก

ไม่ว่าจะเป็น 1-2 วัน หรือ ซัก 1 อาทิตย์ หรือ ซัก 1 เดือน

หรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ พอมาเจอเค้าอีกที หื้ออออ!!!! O_o

.

.

เราอาจจะเจออะไรก็ได้บางอย่างโผล่เข้ามาในชีวิตเค้าให้เราได้เห็น

.

.

ไม่ว่าจะเป็น เสื้อตัวนี้ซื้อตอนไหน

นาฬิกาเรื่อนนี้ได้มาเมื่อไหร่

เข็มขัดเส้นนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อน

สร้อยเส้นนี้ สำคัญนักหรือไง แขวนจัง

.

.

สิ่งของที่โผล่มา ทั้งหลายเหล่านี้ จะถูกอ้างว่า

เพื่อนซื้อมาฝาก หรือเป็นของขวัญวัดเกิด หรือจะเป็นซื้อเองนี่แหละ

หรือจะเป็น ก็กลับบ้านคราวนั้นไง พี่สาวเลยซื้อให้

.

.

แท้จริง อาจแป็นของที่กิ๊ก ซื้อให้ หรือเป็นของที่ไปเดิน Shopping กะกิ๊กมาสดๆร้อนๆ นั่นแหละ

.

.

แล้วถ้าจู่ๆ เค้าเกิดปลื้มมมม เพลงบางเพลงขึ้นมา

โดยที่เมื่อก่อน ก็ไม่เคยเห็นว่าเค้าจะฟังเพลงแนวนี้ได้

.

.

บางที เค้าอาจฟังเพลงนั้น หลายๆรอบ เปิดดังๆ ฮัมเพลงนั้นตาม

พร้อมด้วยรอยยิ้มและแววตาอันเปี่ยมสุข ^_________^

.

.

นั่นแหละ บอกได้เลยว่า เพลงเหล่านั้นนั่นแหละ

อาจเป็นเพลงที่ทำให้เค้าได้ยิน แล้วคิดถึง กิ๊ก นั่นเอง

.

.

แต่ถ้าเกิดคุณเปลี่ยนเพลงที่เค้ากะลังตั้งใจอยู่ละก็

งานนี้ได้มีปากเสียงกันแน่ๆ “ก็ทำไมล่ะ กรุจะฟังนี่นา”

.

.

ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นแค่สัญญาณอันตรายเล็กๆน้อยๆที่พิมเจอ และลงมือทำมากะตัวแล้วทั้งนั้น

มันเป็นข้ออ้างง่ายๆ ที่แค่ต้องการปิดบัง “ใคร???” คนนั้นอยู่

.

.

พิมไม่รู้หรอกนะ ว่าที่คุณอ่านมาทั้งหมด มันจะสามารถฟันธงได้เลยมั๊ย

ว่าแฟนของคุณมีกิ๊ก แน่ๆ

.

.

แต่บอกไว้ก่อนว่า ถ้าเค้ามีจริงๆ มันก็ยากมาที่จะกำจัดมันไปได้

และทั้งหมดทั้งมวล มันจะนำมาซึ่งปัญหา และเลิกลาไปในที่สุด

.

.

ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาโรคมีกิ๊กให้หายขาดได้

เพราะว่า มันดื้อด้านเกินกว่าคุณจะรับมือไหว

.

.

เพราะต่อให้มันเลิกกะกิ๊กคนนี้ มันก็ต้องแอบไปมีกิ๊กคนใหม่ได้

เพราะมันคือ “สันดาน” แล้วนั่นเอง

.

.

ถ้ามันเลวร้ายมากๆ ถ้าไม่ทำใจ ก็ตัดใจเลิกซะ

เพราะถ้าเค้าสองคนเค้าได้ กิ๊กกันไป กิ๊กกันมา แล้วเลยเถิดถึงขั้น เค้ารักกันละก็

.

.

คุณก็จะเป็นมวลสารที่ “ไร้ค่า” ขึ้นมาทันที เชื่อเหอะ เพราะเจอกับตัวมาแล้ว จริงๆ

.

.