.
.
.
ตี 3 กว่าๆ ของคืนวันอังคารที่ 22 มิย. 53
ขณะที่เรา 2 คนพร้อมกับอีก 4 ชีวิตกำลังหลับสนิทในค่ำคืนอันเงียบสงัด
.
.
.
ตึง!! ตึง!!!ตึง!!!
.
.
.
เสียงดังแว่วๆมาแต่ไกล
พร้อมกับได้ยินเสียงชายฉกรรจ์โหวกเหวกโวยวายอยู่นอกห้องไกลๆแว่วๆ
.
.
.
สะดุ้งตื่นขึ้น แล้วก็รู้สึกแค่เพียงว่า "ผัวเมียแมร่ง!!ทะเลาะกันอีกแหงๆ"
.
.
.
ตั้งใจจะข่มตาหลับอีกครั้ง
.
.
.
ตึง!!!ตึง!!!ตึง!!!!
.
.
.
เฮ้ย!!!ทั้งเสียงโวยวาย ทั้งเสียงทุบห้องตึงตัง
ยังคงดังอย่งต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น
.
.
.
เฮ้ย!!!แมร่ง!!!เสียงดังอะไรนักหนาว่ะ คนจะหลับจะนอน
.
.
.
ระหว่างนั้น เด็กๆก็ไม่เป็นอันหลับอันนอนแล้ว
เห่า กระวนกระวาย
.
.
.
พรีมทนไม่ได้ ลุกออกจากเตียงไปเงี่ยหูฟังสิว่า....มันอะไรนักหนา....
.
.
.
.
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้คนอยู่ข้างนอก
โหวกเหวกโวยวาย ทั้งเสียงผู้ชาย เสียงผู้หญิงอื้ออึงไปหมด
.
.
.
ยังไม่ทันได้สงสัยอะไรมาก
ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เหล็กดัดทุกห้องพร้อมเสียงดังตะโกนว่า
.
.
.
"ออกมาๆๆ ไฟไฟม้ๆ ออกมาให้หมด ไฟไหม้ๆๆ"
.
.
.
แม่จ๊าววววววววววววววววว!!!!
วินาทีนั้น หัวใจหล่นอยู่ทีตาตุ่ม มันตกใจ shock อึ้ง ทำอะไรไม่ถูก
.
.
.
ทำไงดีๆ กรุจะเริ่มจากอะไรตรงไหน
.
.
.
ข้าวของ เสื้อผ้า เด็กๆ ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
แว๊บแรกที่ผุดขึ้นมาให้หัว
ไม่รู้หรอกว่า ไอ้ไฟไหม้เนี่ย มันไหม้ยังไง มันไหม้ถึงไหน
กรุจะรอดมั๊ย กรุจะตายมั๊ย ลูกกรุล่ะ ข้าวของล่ะ
มันสับสนไปหมด
.
.
.
เด็กแว๊นซ์ลองเปิดประตูเพื่อจะดูว่าข้างนอกวุ่นวายยังไงบ้าง
.
.
.
สิ่งแรกที่เราเห็นและรู้สึกได้คือ
ควันสีเทาๆทะลักเข้ามาให้ห้องเราทันที
กลิ่นเหม็นไหม้ ลอยคลุ้ง ชวนสำลักอย่างยิ่ง
.
.
.
.
เห็นอย่างนี้บอกได้คำเดียวว่า shock !!!!!!
.
.
.
"กรุ.....ตายแน่ๆ"
.
.
.
ทันใดนั้น สิ่งแรกที่เราสองคนทำคือ ควานหาเสื้อผ้า.....
((ไม่ต้องตกใจ ควานหาเสื้อผ้าเพื่อใส้ให้มิดชิดย่ะ ไม่ถึงขนาดแก้ผ้านอนหรอกหน่า)))
.
.
.
.
คุณเคยตกใจกับอะไรสุดขีดหรือเปล่า
นั่นแหละความรู้สึกนั้นเลย
พรีมเกิดหากางเกงขาสั้นไม่เจอ "กางเกงอยู่ไหนว่ะ เสื้ออยู่ไหนว่ะ"
เด็กแวนซ์เกิดหารองเท้าแตะไม่เจอเหมือนกัน "รองเท้าเค้าอยู่ไหน"
.
.
.
พรีมไม่รู้ว่าตอนนนี้ ไอ้ไฟที่ว่าไหม้นั้น มันไหม้ถึงไหนแล้ว
.
.
.
จำได้ว่าถ้าไฟไหม้ให้หนีโดยการหาผ้ามาชุบน้ำแล้วอุดจมูกหนีไปกันสำลักควัน
.
.
.
ไหนจะลูกอีก 4 ตัว ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ ตายยกครัวแน่มรึงงานนี้
อยู่ตั้งชั้น 6 ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
.
พรีมสติกระเจิงมาก วิ่งไปเอาผ้านวมที่มีที่เอาไปชุบน้ำยังไม่พอ
ก็ไปเอาอีกผืนมาชุบน้ำอีก ((ดูทีวีเยอะไปหน่อย))
.
.
.
แล้วพรีมก็เอาผ้าเปียกๆปิดหน้า คลุมหัว อุ้มน้องพุก กะน้องก้องไว้แน่นสุดชีวิต
เด็กแว๊นซ์อุ้มพี่หริ่ง กะก่ำก๊ำ แต่ไม่ยอมเอาผ้าที่พรีมชุบน้ำให้
เอ๊า!!!! _ _"
.
.
.
คือเรื่องของเรื่อง เด็กแว๊นซ์ มีสติมากกว่าเพราะดูแล้วเหตุการณ์ไม่น่าแย่อย่างที่คิด
.
.
.
มองไปทางอีกฝั่งของห้องมันมองไม่เห็นอะไรเลย ตอนนั้นมันมีแต่ควันๆๆๆ และควัน
.
.
.
สิ่งที่พรีมกะเด็กแว๊นซ์ เอาลงติดตัวมาด้วยจากห้องคือ
มือถือ กระเป๋าตังก์ คอมพิวเตอร์ แล้วก็ลูกๆทั้ง 4
((กรุเอาบัตรพนักงานบริษัทติดมือมาด้วย ห่วงเพื๊ออออ?????)))
.
.
.
ก็ยังคิดอยู่ว่าถ้ามันเลวร้ายนัก เราก็คงไม่เหลืออะไร
นอกจากชีวิตของเรา ชีวิตของเด็กๆ โทรศัพท์ เงินนิดหน่อย และ คอมพิวเตอร์เท่านั้น
.
.
.
ผู้คนมากมายแตกตื่นกันลงมาที่ข้างล่าง
เสียงดังจ่อกแจ่ก พากันวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา กับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
.
.
.
ทั้งพวก รปภ. ตำรวจ เดินขวักไขว่กันดูวุ่นวายไปหมด
พรีมลงมาอยู่ที่นั่นด้วยสภาพเปียกโซ่ก พร้อมน้องพุก กะน้องก้องที่พรีมอุ้มมา
.
.
.
แต่เมื่อลงมา ดูเหมือนว่า คนอื่นเค้าจะไม่มีผ้าชุบน้ำอย่างที่พรีมเอามา
_ _" เอ๋า!!!สรุปกรุ ตื่นตูมเว่อร์อยู่คนเดียวเร๊อะ!!!!ฮ่วย!!
.
.
.
พวกเรานั่งตรงนั้นซักพัก เสียงหวอรถดับเพลิงก็แว่วมา
"ดีใจจัง รถดับเพลิงมาแล้ว"
.
.
.
ตอนนั้นตี 4 นิดๆแล้ว พนักงานดับเพลิงทำงานประมาณครึ่งชม.
ทุกอย่างเลยลงเอยด้วยดี เค้า cfm ว่าพวกเราเข้าที่พักได้
ทุกคนเลยเริ่มเดินต้อยๆ กันขึ้นตึก
.
.
.
สรุปว่า ห้องเกิดเหตุอยู่ชั้น 6 ((ชั้นเดียวกะที่พรีมอยู่))
แต่ว่าห้องเค้าอยู่ไกลพรีมระยะนึงเหมือนกัน
.
.
.
เหตุเกิดเพราะ น้องที่เช่าห้องเป็นน้องผู้ ช อายุประมาณ 20
เค้าจุดธูปเทียนไหว้เจ้าแม่กวนอิมไว้
และลงไปเล่นเกมส์ข้างล่าง แต่ลืมดับไฟ
_ _" กำ กำ กำ
.
.
.
ห้องน้องเค้าเลยไหม้อยู่ห้องเดียว
และที่รู้ว่าไฟไหม้เพราะข้างห้องเค้าได้กลิ่นควันไหม้
ขณะที่เจ้าตัวคนก่อเรื่อง ยังคงเล่นเกมส์อยู่ข้างล่าง
.
.
.
จะว่าไปก็สงสารน้องเค้าเหมือนกัน รุ่งเช้าพรีมไปดูสภาพห้อง
มันไม่เหลืออะไรเลย ไหม้หมด ยกเว้นรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม
((เออ.....เอากะเค้าสิ))
.
.
.
ไม่รู้ว่าตอนนี้น้องเค้า และเจ้าของห้องจะดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
ทุกวันนี้ห้องยังคงไหม้ดำเป็นตอตะโก ทุกอย่างถูกขนไปทิ้งหมดแล้ว
.
.
.
.
แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือ เถ้าของความไหม้ สีดำๆของห้องที่ถูกไหม้
และกลิ่นเหม็นไหม้ ที่ยังคละคลุ้งไปทั่วชั้น 6 ที่เราอยู่
ทุกครั้งเวลาที่เราเดินออกจากห้อง หรือออกจากลิฟท์ กลิ่นไหม้จะตามหลอกหลอนเราอยู่
.
.
.
สุดท้ายสิ่งที่มันจะยังอยู่กับเราตลอดไปคือความหลอน
ความรู้สึกที่หลอนทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องคืนนั้น
ไม่อยากนึกถึงเลยจริงๆ มันแย่มาก
กับภาพที่เราต้องอุ้มเด็กๆวิ่งหนีไฟไหม้โดยที่แทบจะเอาอะไรจากห้องมาไม่ได้เลยซักชิ้น
.
.
.
กลิ่นควัน สีเทาเหม็นคลุ้งของควันมันจะติดอยู่ที่ความรู้สึกนึ้ของเราตลอดไป
.
.
.
มันพาลให้คิดว่า ดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่ไหม้ถึงห้องเรา
มันพาลทำให้คิดว่า ถ้ามันแย่กว่าที่เราคิด วันนี้.....เราจะอยู่ตรงไหนของกรุงเทพ
เราจะทำยังไง เราจะอยู่ยังไง
.
.
.
เฮ้อ.....แค่คิดก็เจ็บปวดแล้ว
.
.
.
เริ่มเข้าใจคนอื่นที่ชีวิตเค้าอยู่ในช่วงนาทีเป็นนาทีตาย
เริ่มเข้าใจคนที่เค้าเจอเรื่องแย่ๆแบบที่ควบคุมมันไม่ได้
ไม่ว่าจะน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือสึนามิ หรือแม้แต่ที่ซานติก้า
แม้ว่าอาจไม่เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงความสูญเสียนั้น
แต่ก็มีอยู่บางเสี้ยวที่เข้าใจว่า สติแตกเป็นยังไง
.
.
.
บางทีก็คิดว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้สูญเสียอะไรไปเลย
ทั้งชีวิตตัวเอง ทั้งชีวิตลูกๆ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ยังอยู่ดี อยู่ครบ
แต่คนอื่นที่เค้าสูญเสียสิ่งที่รัก คนที่รัก ของที่รักไปในเหตุการณ์แย่ๆที่เกิดขึ้นมากมาย
เรื่องของเรา มันเทียบไม่ติดจริงๆ
.
.
.
วันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นสอนให้พรีมรู้แล้วว่า เราไม่ควรประมาทต่อการใช้ชีวิต
เพราะเราจะไม่มีทางรู้เลยว่า อีก 1 นาทีข้างหน้าเราจะเจออะไรบ้าง
.
.
.
ต่อไปนี้เราจะใช้ทุกวินาทีอย่างมีสติที่สุด
......สัญญา.........
.
.
.
เออว่ะ สะเทือนใจ อย่างที่โฆษณาเลย สงสารเด็กๆ นอนๆอยู่ก็ถูกแม่หิ้วลงมาคงตกใจน่าดู...
ตอบลบดีใจที่เหตุการณ์ไม่ร้ายแรงนัก แต่ก็คงทำให้ครอบครัวเล็กๆของแกสั่นครอนทางความรู้สึกเหมือนกัน...
เอาหน่า...มันผ่านไปแล้ว...ต่อไปนี้ ก็จงรักษาสติให้อยู่กับตัวตลอดเวลาละกัน..
วุ๊ย..หายไปนาน โผล่มาที ทำเอาชั้นต๊กใจ.. O_o
ดีใจด้วยนะคะที่คุณ และลูกๆปลอดภัยดี คงตกใจขวัญเสียน่าดู
ตอบลบคืนนี้ให้แฟนเรียกขวัญซะนะคะ ^^
hanoy leslady.com
โหย สุดยอดแร้วคุณเพื่อน
ตอบลบสุดยอดอภิมหาต๊กใจ
ตอบลบง่วงก็ง่วง อยากนอน แต่สิ่งเหล่านี้หายไปหมดเมื่อรู้ว่าไฟไหม้
ควันพวยพุ่งออกมาอย่างตกใจมากกกกก
ตัวผมเองเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วล่ะ ครั้งนึง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กับครอบครัวของผม ก็โชคดีที่สุดแล้วล่ะครับ
แค่ผม ที่รัก และลูกๆของผมปลอดภัย ก็ดีใจแล้ว
ส่วนสมบัติต่างๆ ไม่คิดเสียดายหรอกครับ เพราะมันนอกกาย
แถมเราอยู่ตั้งชั้น 6 ก็คงขนอะไรไปได้ยาก
(อยู่ตามหอพัก คอนโด เตรียมใจเถอะกับเรื่องแบบนี้)เราก็เอาของ
สำคัญๆ ไปมากกว่า อย่างอื่นค่อยว่ากัน
แต่วันนี้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็ได้แต่หวังว่าอย่าเกิดขึ้นอีกเลยนะ
ก็ขอให้ทุกๆ คนที่อ่านไดของพรีม อย่าประมาทนะครับ
(ทุกวันนี้ออกจากบ้าน ผมดึงปลั๊กไฟทุกปลั๊ก ยกเว้นตู้เย็น อย่างเดียว เพราะ
กลัว คร๊าบบบบบบบบบบบบ.........พี่น้อง)
อ้อ ลืมบอกไปว่าเจ้าของได ใส่เสื้อกลับด้านแหละ อิอิ ^-^
ฟาดเคราะห์เน๊อะ
ตอบลบปล. ต่อไปนี้เราจะใช้ทุกวินาทีอย่างมีสติที่สุด --> อยากให้มึงคิดได้ตั้งแต่ที่ขับรถกลับบ้านตอนเมาแล้วหละ -*-