๕.๒๑.๒๕๕๓

.......หยุดยาวววววววววว.......

. . . จากวันนั้น วันที่บอกว่าไม่ได้ไปทำงาน

จนถึงวันนี้ และนับถึงวันที่จะต้องไปทำงานอีกทีคือวัน จ ที่จะถึงนี้ ก็....

. . . . 10 วันพอดี ที่อยู่บ้านเฉยๆ นอนหายใจทิ้งไปวันๆ

ไม่ได้ออกไปไหน เงินก็ไม่มีให้ออกไปด้วยแหละว่ะ ความจริง อิอิ

. . . อีกอย่างประกาศเคอร์ฟิวด้วย แค่ออกไปปากซอยหาซื้ออะไรกินก็ลำบ๊าก ลำบาก

ยังไม่ทัน 2 ทุ่มดีเลย 7-11 พากันปิดหมดแระ

. . . วันๆ นอกจากนอนหลับมากกว่า 15 ชม.ต่อวัน ก็นอนดูข่าว

ดูมันทุกช่องที่มีเรื่องการปะทะกัน เผาโน่น พังนี่

ยิ่งดูก็ยิ่งหดหู่ ยิ่งดูก็ยิ่งเครียด สะเทือนใจ((ระคนดีใจที่ไม่ต้องไปทำงาน อิอิ ^^"))

. . . ดูไปก็สงสาร พวกพ่อค้า แม่ค้า ที่โดนเผาร้านเนอะ

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี ซวย โชคร้าย แย่ เวรกำ ถุย!!!!!ชีวิต

มันยากจะหา คำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เค้าเจอว่ะ

. . . . ภาพห้างสรรพสินค้าที่เคยสวยงาม hi so หรูเลิศ

ตอนนี้เหลือแต่ซาก เห็นแล้ว หดหู่
((นี่ขนาดไม่ได้เจอของจริงนะ
สงสัยต้องแวะไปเก็บภาพประวัติศาสตร์อันน่าอับอายขายขี้หน้าต่างชาติซะหน่อย))

. . . โรคจิตแมะ ตอนช่อง 3 ปิดสัญญาณทีวี

กรุก็วนกดไปดูช่อง 3 อยู่นั่น เป็นห่วง ((คิดถึง)) U^U อยากให้มันเปิดสัญญาณเร็วๆ

พอสัญญาณมันใช้ได้ เท่านั้นแหละ เอ้อ.....ดีใจ ช่อง 3 กลับมาแล้ว ^o^

เค้าจะได้ดูเคนกะชมพู่ แล้ว คริๆ ^^
((แต่ก็แอบเสียดายที่เค้าไม่ได้เปิด 24 ชม.))
. . .
แต่ยังดี ที่คอนโดมีช่องเคเบิ้ลให้ดูที่บันเทิงบ้าง อะไรบ้าง
แต่เชื่อป่ะ ว่าไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเหี้ยขนาดไหน
แต่ก็ยังมีช่องบันเทิง ช่องนึง ที่มันไม่สนใจส้นตรีนอะไรเลยคับ
.
. .
วันๆ ก็จะมีเกย์ ตุ๊ด ออกมาคุยเรื่องข่าวดาราคนโน้น คนนี้ไปตามประสา
อืมมม.....ข้างนอก เค้าฆ่ากันจะเป็นจะตาย
อิช่องนี้ เหรอ....เหอะๆๆๆ อย่าได้แคร์
ตามไปสัมภาษณ์แต่ดาราใครเลิกกะใคร ใครกิ๊กใคร
. . .
สาวเป้ย จะเลิกกะผัวเด็กจริงเหรอ???
จริงหรือไม่???? สินสอดนางเอกวิกหลายสีเป็นร้อยล้าน แขกมาห้าพันคน
.
. . .
ป๊าดดดดด ช่างเข้ากะสถานการณ์บ้านเมืองเหลือเกิ๊นนนนน แม่คุณเอ๊ยยยย!!!!
.
. .
แล้วเป็นขี้เกลืออะไรคับ
ที่จะต้องเอาแต่หน้าพิธีกรที่หนังหน้าซ่งติงมั่กๆ มานั่งหน้าขาวว่อกที่หน้าจอทีวี
กรุเปิดไปแล้วตกใจ
เป็นกระเทยกรุพอเข้าใจ แต่แต่งหน้าขาวว่อกกว่าคอที่ดำๆเนี่ย กรุไม่เข้าใจ _ _"
. . . แต่ช่องนี้ ตอนเช้าๆ กลางวันๆ ก็จะเอาสาวๆหน้าตาน่ารักๆหน่อยมาเป็นพิธีกร
พอครั้นช่วงโพล้เพล้ๆ ถึงดึกๆเท่านั้นแหละ โอ้โห!!!!! ช่างเลือกเนอะ
. . . กรุเปิดไปเจอที รีบเปลี่ยนแทบไม่ทัน
.
. . ดีหน่อยบางทีเปิดไปเจอ MV เพลงเกาหลี เออ.....ค่อยยังชั่วหน่อยแสรดดดดดด
.
.
.
.
วัน จ นี้ก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว
ไม่รู้ว่า 1 เดือนที่เค้าให้โอกาส มัน.......มัน......มันน้อยไปมั๊ยว่ะ
.
.
.
.

๕.๑๔.๒๕๕๓

......ชีวิตที่วุ่นวายในเมืองใหญ่........

. .

จากวันที่เริ่มทำงาน ถึงวันนี้ก็ 1 อาทิตย์แล้ว

ได้เรียนรู้งานขึ้นเรื่อยๆ

.

. . จริงๆแล้วที่ทำงานเค้าเรียกตำแหน่งนี้ว่า เลขาฯของทีม

ก็งงๆ ว่าเอ๊ะ !! มันไมใช่งาน feel ที่เราเข้าใจหรอกเหรอ

. . . พอเข้าไปทำ ได้ 2-3 วันก็เพิ่ง get ว่าเออ.....มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

. . . มันเป็นงานประเภท จองโรงแรม จัดเอกสารทำvisa จองรถ

จองตั๋วเครื่องบิน ให้กับบรรดาแพทย์ที่จะไปสัมนา

. . . จัดเตรียมพวกอาหารการกินให้กับกับแขกและ staff เวลามีสัมนา

. . .

หรืองานอะไรต่างๆ ที่ผู้แทนยาร้องขอให้ทำ

อย่างพวกเตรียมของ และอุปกรณ์ ออกบูธ โปรโมท product

. . . อืมมมม.....เข้าใจแล้วว่าเป็นงานแนวไหน

. .

แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า report หินแค่ไหน

เพราะเท่ารู้ พวก ตัวเลขน่าชุลมุน อยู่ เหอะๆๆ

.

. . แต่ก็เอาเหอะ สู้ๆ

. . . และไม่รู้ว่า โชคดีหรือโชคร้ายที่ตึกที่ทำงานอยู่แถวๆที่ชุมนุม

เลยทำให้ วันนี้ออฟฟิศ หยุด 1 วัน

เมื่อวานก็ได้ออกเร็วกว่าปรกติ

.

.

. เออดีเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ทำงานกลับบ้านค่ำทุกวันเลย

. . . ปรกติทำงานที่ไหน พอได้เวลาเลิกงานก็จะรีบๆๆๆๆๆๆกลับบ้าน

แต่พอทำที่นี่ ไม่เห็นมีใครประตือรือร้น เวลาเลิกงานเลย

ทุกคนยังนั่งมึนทำงาน ((อยู่ได้))

. .

. แต่ก็เข้าใจแหละว่างานมันเย๊อะ!!!ซึ่งเราจะเข้าใจเองว่ามันเยอะยังไง

. . .

ตอนนี้ก็ยังต้องปรับตัวเองให้เข้าสู่การทำงานออฟฟิศ

คือตื่นช๊าวกว่าจะถึงบ้านก็ค่ำมืด

ได้เวลานอนก็ต้องนอน

เจอทั้งรถติด รถตู้เต็ม รถไฟฟ้า บางที่ก็มีเหตุขัดข้อง คนเบียดอัดกันเป็นกระป๋อง

. . . ต้องแต่งหน้าเป็นงิ้วทุกวัน ใส่รองเท้าส้นสูงจนเมื่อย แต่งตัวต้องสะอาดเรียบร้อย

ปั้นหน้ายิ้มจนเมื่อย แอ๊บเสียงพูดเพราะเวลาคุยโทรศัพท์ซะจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

.

. . ถามว่าบ่นอย่างนี้แล้วไม่ทำอะไรซักอย่างได้มั๊ย

ไม่ได้นะ เพราะการทำงานในสังคมคนหมู่มาก การปรับตัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

. . .

ที่ทำคัญ ภาษีสังคม สูงขึ้น แต่รายได้จิ๊ดเดียว 55555+

. . . . มื้อแรกกินข้าวจานละ 60 แสรดดดด _ _"

เมื่อวานได้กินผัดไท จานละ 85 godddddddddddddddd

.

. . ไหนจะค่าเดินทาง รถตู้+ รถไฟฟ้า
ป๊าดดดดด การกระเสือกกระสนไปทำงานในเมืองใหญ่ ตึกสูงๆ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
. . . ตอนนี้ก็ต้องตามน้ำไปก่อน แล้วจะปรับอะไรๆ ให้เข้ากับชีวิตก็ค่อยว่ากัน
. . .

๕.๐๔.๒๕๕๓

.........เดินย่ำต๊อก ออกหางานทำ.............

หลังจากที่แยกตัวเองออกมาจากร้านสเต็กที่แสนรัก ((กระซิก กระซิก)) U^U
. .
.
ชีวิตก็เข้าสู่ วังวน วัฏจักรเดิมๆ
.
.
. คือ เดินต๊อกต๋อย หางาน
.
.
. O_o หื้ออออ !!! หางาน เหรอ เหอะๆๆๆๆ
มันช่างเป็นคำที่เจ็บปวดรวดร้าวของคนสมัยนี้เสียจริง
.
.
. สิ่งแรกที่ออกมา แล้วบอกใครต่อใครว่า ชั้นจะหางาน
. . . มันมีหลายคำที่พูดออกมาจากแต่ละคน
แต่ที่แน่ๆ คือ คำว่า สมัยนี้งานไม่ได้หากันง่ายๆ
. . . ถูกเผ็ง!!!! จะหางานที่จะรับเรานั้น ยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
. . .
. ตลอดระยะเวลาที่ออกมาหางาน
เริ่มต้นจากการ โพสประวัติตัวเอง ตาม web หางานเป็น 10
. . . จากนั้นก็เป็นขั้นตอนส่ง resume ไปตามบริษัทที่เราสนใจเกือบร้อย
. . . มันอาจไม่มากสำหรับใครหลายๆคน
แต่นี่เป็นการส่ง resume หางานของพรีมที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยทำมา
.
. . ตลอดระยะเวลาทำงานมาเกือบ 10 ปีแล้ว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทีบ้าส่ง resume มากมายขนาดนั้น
. . . . แต่รู้มั๊ย เอาเข้าจริงๆ พรีมลองถามคนเค้าไปสมัครงานและสัมภาษณ์ที่เดียวกะเรา
เค้าส่ง resume มากกว่า 300 ฉบับ
.
. .
.
โอ้โห !!!!มันมากว่าเราตั้ง 3 เท่า
ได้ยินอย่างนั้น เพิ่งรู้ว่า อย่างเราอ่ะ จิ๊บๆ
. . . รู้มั๊ยได้ยินอย่างนั้น มันได้กำลังใจขึ้นอีกตั้งเป็นกอง
อย่างน้อย เราก็ยังรู้ว่า เฮ้ย!!! ไม่ได้มีเราคนเดียวหรอกว่ะ ที่กำลังอยู่ในห้วงเวลาอันเหนื่อยเช่นนี้
.
.
.
.
. แต่ถึงจะโพสไปมากเท่าไหร่ แต่ผลตอบกลับเชิญไปสัมภาษณ์
มันก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด
. . . . . ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ที่เราไม่เข้าตากรรมการ
สิ่งนึงที่เกิดขึ้นในสภาวะการณ์เช่นนี้คือ ท้อ
. . . . ที่ผ่านมา 2 อาทิตย์ได้ไปสมัครและสัมภาษณ์มาหลายที่ นับ 10 นะ
มันมีทั้งที่รู้ว่า ไม่ได้แน่ๆ มันมีทั้งที่ๆ มีความหวังเล็กๆกับมัน
. . . บางที่ไปแล้ว อยากทำที่นี่มาก
บางที่ไปแล้ว ก็รู้สึกว่า ถ้ากรุได้ทำงานที่นี่ กรุจะเป็นไงว่ะ รู้สึกไม่ชอบเลย
. . . มีทั้งความคิดที่เข้าข้างตัวเอง แล้วก็ทำใจไว้เสมอ
.
.
.
.
แต่สิ่งที่ต้องเดินทางไปสัมภาษณ์งานแต่ล่ะที่ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงิน
ซึ่งเวลาที่เงินมี มันคงไม่ได้ลำบากอะไรนัก แต่ยามที่มันขัดสนละก็
.
. . ทุกครั้งที่เวลาออกมาจากแต่ละบริษัท ก็มักจะบ่นกะตัวเองว่า
แมร่ง!!!ไม่น่ามาให้เสียตังค์ค่ารถเลย
. . . . แล้วเป็นห่าอะไรไม่รู้ ส่วนใหญ่แต่ละที่ๆเรียกไปสัมภาษณ์
ก็อยู่ในเมืองทั้งนั้น เรียกได้ว่า ต้องเดินทางโดนรถไฟฟ้าใต้ดินมั่ง ลอยฟ้ามั่ง
เฮ้ออออ!!! เงินก็ไม่ค่อยจะมี
.
.
.
แต่จะให้ไปทางรถเมล์ กรุก็ไปไม่สะดวกอีก
ไปไม่ถูกนั่นแหละ ลงป้ายไหนก็ไม่รู้ โง่ได้อี๊ก
. . . . ทำไงล่ะ ทำไงได้ ก็ต้องไป อยากได้งานนี่นา ก็ต้องอดทน
. .
. ไอ้เรื่องเงินอาจไม่สำคัญเท่าไหร่ ตราบใดที่เรายังพอมีให้ใช้ในการเดินทาง
. . . . แต่สิ่งที่สำคัญ ก็คือ ชุดและองค์ประกอบต่างๆ เวลาไปสัมภาษณ์งาน
หลายๆคนคงทราบดีว่า การไปสัมภาษณ์งานนั้น
สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนต่อทักษะในการให้สัมภาษณ์คือ การแต่งกาย
. . . . ถามว่า ต้องแต่งเรียบร้อยขนาดไหน
สำหรับคนอื่นกรุไม่รู้ แต่สำหรับกรุ ต้องเรียบร้อยกว่าคนอื่นมากกกกกก
. . . .
เพราะว่าที่อก ดันมีรอยสักหลาเชียว
คุณคงนึกออกว่าพรีมจะต้องมิดชิดกะมันขนาดไหน
. . . ดังนั้นมันจึงออกมาเรียบร้อยม๊ากกกกกกกกกกกกกก
จะเอากระดุมติดให้ชิดคอ หายใจไม่ออกจะตายห่าอยู่แระ
. . . กระโปรงก็ต้องเป็นทรง A ไอ้กระโปรงบานๆใส่สบายๆ ก็ต้องพักไว้
. . . แถมร้องเท้าก็ต้องเป็นรองเท้า แนวคัชชู หุ้มส้น ((กัดตรีนกรุก็กัด)))
เดินลำบากก็ลำบาก ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย
. . . นี่แหละหนอ วิบากกรรม ของคนหางาน
. . . แต่คนเรา มันไม่มีอะไร เกินความพยายามหรอก
ต้องหางานให้ได้ หางานให้ได้ หางานให้ได้ ท่องไว้ๆๆๆ
. . . . จนที่สุด 2 อาทิตย์แห่งความพยายามก็สำเร็จ เย๊!!!!
ค่ะ พรีมได้งานแล้ว หน้าที่ได้รับมันงานเป็น feel เดียวกะที่เคยทำ
. . .
ที่ได้ทำ เป็นบริษัทขายยาของญี่ปุ่น
เหอะๆๆๆ น่าจะโหดอยู่ แต่ก็นั่นแหละ อย่าได้แคร์
รู้อย่างเดียว ว่ามันคือทางรอด ของชีวิตในสภาวะการณ์ปัจจุบัน
อีกอย่างพรีมเคยทำงานกับพวกเกาหลีแล้ว เจอญี่ปุ่น ก็คงพอรับมือไหวนะ
(((สาธุๆ))
.
. . ถึงแม้ว่าพรีมอาจไม่ต้องลำบากตกงานนานๆ เหมือนคนอื่นๆที่เค้าประสบอยู่
พรีมอาจโชคดี ที่ได้งานเร็วมาก ((จนตัวเองก็ยังไม่อยากเชื่อ))
. . . แต่เรื่องการหางานนั้น นอกจากความสามารถแล้วมันก็ต้องมีดวงด้วย
. . อันนี้ขอพูดถึงพวกต้องเดินต๊อกต๋อยหางานเหมือนพรีมนะ
การหางาน การเดินทางไปสัมภาษณ์งาน
การไปเจอ test ทั้ง จิตวิทยา ทั้ง ข้อสอบแบบปรนัย ข้อสอบอัตนัย
ทั้งการเจอสัมภาษณ์ทั้ง ชม. เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ พูดจนเมื่อย กก ลิ้น
มันแบบว่าหินมาก ทำเหมือนจะสัมภาษณ์กรุไปเป็น ผจก. แหนะแสรดดดด
. . . ส่วนพวกที่ได้งานเพราะเป็นเด็กฝากก็โชคดีเนาะ
ไอ้เราก็เป็นแค่ลูกตาสีตาสา ไม่มีเส้นสายอะไรกะเค้าหรอก
. . . แค่ลูกคนจนๆ จากต่างจังหวัดติดชายแดน ได้แค่นี้ ก็ดีใจหายห่าแล้วว้อยยยยย
. . . ปล. ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เป็นห่วงพร้อมเป็นกำใจให้เสมอ
. . . ปล. 1 ขอบคุณใครก็ไม่รู้ที่ดลใจให้เค้ารับพรีมเค้าทำงาน
ทั้งที่ ติเรื่องความสวยงามกรุทุกเม็ด
. . . ปล. 2 นับจากนี้ ชีวิต ลิขิตเอง เริ่มงาน พฤ ที่ 6 พค. นี้แล้ว
ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่ หวังแค่ว่าขอให้เราผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดีก็พอ
. . .