๑๑.๒๘.๒๕๕๑

....เพื่อนรัก อกหัก.....

เมื่อวาน นั่งทำงานเพลินๆ
เพื่อนซี้ พูดขึ้นมาว่า
.
.
“พิม กินเหล้ากัน กรุอกหัก”
O_o “หื๊อออ!!!! อย่างมรึงเนี่ยนะอกหัก”
.
.
“อือ...กรุเลี้ยงเอง”
^_____^ “ป่ะ ไปดิ”
((หน้าตายิ้มแย้ม น้ำเสียงเริงร่า หาได้มีรู้สึกเศร้าไปพร้อมเพื่อนซักนิด))
.
.
แล้วเราก็ไม่รู้จะไปไหนกัน
ปรึกษาไอ้อ้อม ว่าเราจะพามันไปกินหล้าที่ไหนดี
อ้อมบอกว่า ข้างตึกนี่แหละ ร้านเหล้าปั่นมาเปิดแล้ว
ได้บรรยากาศ เพราะอากาศกะลังเย็น
.
.
“แต่กรุมีงบ 500 นะ”
-_-“ “เออ...เอาเหอะ 500 ก็ 5 เหยือกแระมรึง”
.
.
ตกเย็น เรานั่งทำงานกันไป ((ความจริงคือนั่งเล่นเน็ทเพลินๆไป))
นั่งรอเวลาร้านเหล้าเปิด
.
.
ได้เวลา พากันลงตึกไป 3 คน จุดหมายคือ ร้านเหล้าปั่น ข้างตึก
แต่...
.
.
T^T ร้านไม่เปิด โห้ววววว ส้าวววววว
.
.
เราจึ่งเปลี่ยน target จากร้านเหล้าปั่น บรรยากาศชิวๆ เป็น!!!!!
ร้านอาหารอีสาน คร๊าบบบ พี่น้อง 555+
.
.
เอ้า ไม่ได้แดรกเหล้าปั่น แดรกส้มตำปูปลาร้าก็ได้ว่ะ ครือๆกัน ((ตรงไหนหรือ????))
.
.
และแล้ว เรา 3 คน ก็พากันไปจกปลาแดก เมาปลาแดกกันถ้วนหน้า
((เอาว่ะ งบ 500 กินสนั่นล่ะ งานนี้ ไม่กัวแล้วเรื่องอ้วน- - ห่วงแดรกฟรีไง))
.
.
แต่ด้วยปฏิภาณไหนพริบของเรา
เราจึงได้ชักชวนพี่ที่ทำงานร่วมก๊วนจกปลกแดกเพิ่ม
((ความจริง อิเพื่อนมันหวังหาตัวหารช่วยตะหาก -_-“))
.
.
เลยได้เหยื่อมาอีก 3 คนไทย 2 ต่างชาติ 1 เหอะๆๆๆ ^^
.
.
งานนี้เพื่อนซี้ เลยได้จ่ายค่าเสียหายไป 200 บาทเท่านั้น
((แต่พิมกะอ้อมไม่ต้องจ่าย ไปแดรกฟรีอย่างเดียว))
ดังนั้นเพื่อนจึงจะต้องเหลือเงินอีก 300 จากงบ อกหักครั้งนี้
.
.
หันหลังไปป๊าบบบบ!!!
โว๊ะ โฮ๊ะ !!!! ร้านเหล้าปั่นตั้งแล้ว 55555+
.
.
มา มา มา มาแดรกเหล้าปั่นกันซะดีๆ
((เพราะ งบ มรึงยังเหลือ))
.
.
ว่าแล้ว เรา 3 คน จึงไปต่อกันที่ร้านเหล้าปั่น
((เพื่อฉลองอาการอกหัก ของเพื่อน ให้สมใจ))
.
.
จากนั้น เราก็ชวนเด็กแว๊นซ์มาเพิ่มอีก 1
เพราะเด็กแว๊นซ์ จะเป็นเป้าหมายในการหารค่า เหล้าปั่น รายต่อไป 5555+
((แต่พิมกะอ้อมยังยึด concept แดรกฟรีเหมือนเดิม))
.
.
เวลาผ่านไป 4 คน หมดไป 3 เหยือก
((พิม เริ่ม กึ่มๆ ~////~))
.
.
จากนั้นมีพี่ที่ทำงานมาร่วมอีก 1
เป็น 5 คนหมดไป 5 เหยือก ชิวๆ
((แต่กรุกะไอ้อ้อม เมาปลิ้นแล้ว))
.
.
งานนี้จ่ายค่าเสียหายไป 500 ถ้วน
((เจ้าของร้านใจดี ให้ 4 ฟรี 1 แต่ค่าเพิ่ม shot จ่ายเอง))
อิเพื่อนจ่าย 300 ตามงบเด๊ะ!!!
เด็กแว๊นซ์ จ่าย 200 หึ หึ หึ
.
.
กรุ กะ ไอ้อ้อม ไม่ได้จ่ายซักบาท แต่เมาเหมือนจ่ายคนละ 3 พัน เหอะๆๆ
.
.
ขากลับไม่เอารถตัวเองกลับด้วย
แว๊นๆๆๆๆ กลับบ้านกันดีกว่า 5555+
.
.
พอถึงห้องเท่านั้นแหละพี่น้องคร๊าบบบบ
ทุกๆๆๆๆ สิ่งอันที่แดรกเข้าไป
ตั้งแต่ ส้มตำ ลาบ ก้อย เสือร้องไห้ ปากเป็ดทอด ไส้ย่าง
และเหล้าปั่นเพิ่ม shot 5 เหยือก 5 รส นั้น
.
.
ได้ลงไปอยู่ในโถส้วมที่ห้องกรุหมดไส้ หมดพุงเรียบร้อย
นั่นคือ กรุอ้วกกกก ออกหมดนั่นเอง -_-“
.
.
กำ กำ กำ นานน๊านนนน ถึงจะได้กินของฟรีของเพื่อนซะที
ดั้นนนนน เมาแล้วอ้วกกกกทู๊กกกกกที
สงสัยจะฉลองที่เพื่อนรักอกหักมากไปหน่อย
.
.
เอ๋ o_O ว่าแต่ เพื่อนมันอกหักจากผู้ ญ คนไหนว่ะเนี่ย????
ป๊าดดดด!!! ลืมถาม แหะ แหะ ^^"
.
.

๑๑.๒๖.๒๕๕๑

...กิน กิน นอน นอน....

วันนี้ขอว่ากันด้วยเรื่องกินๆนอนๆ
.
.
วันก่อนโน้นนนน
ทั้งแว๊นและก๊อย ((อิเจ๊เปลี่ยนเป็น เด็กหม๊อยกะแว๊ก ไปแล้วเรียบร้อย -_-“))
.
.
พากันไปธุระแถว อนุสาวรีย์ วู้ๆๆๆ ช่วงนี้เข้าเมืองบ่อย 5555+
เสร็จธุระเลยพากันไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ((ตามกระแส ทุนน้อยนิยม))
.
.
ไอ้พิมง่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก กะก๋วยเตี๋ยว
เพราะว่า อยู่ในช่วง ลดนน. T^T
ก็เลยกินแบบ กระแดะๆ เคลือบกระเพาะไป 2 ชาม
((ตักเข้าปากซัก 4 คำก็หมดแล้ว ได้น้อยเกิ๊น))
.
.
แต่ไอ้เด็กแว๊นซ์นะเซ๊!! -_-“
.
.
ตัวก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย
((ใครที่รู้จัก จะรู้เลยว่า นังเนี่ย ผอม ผอมมากด้วย))
.
.
กินเข้าไปได้
.
.
เล็กหมู 2 ^^
หมี่เนื้อ 2 ^^”
เล็กเนื้อ 2 ^^””
หมี่หมู 2 -_-“
เกี้ยวทอด 3 _*_
.
.
>.<
.
.
เอ่อ.....มันไปยัดไว้ส่วนไหนของพุงแกว่ะ
.
.
โอ้วววว ยังมีโม้ทับถมด้วยนะว่า
“นี่เด็กๆ ปรกติเฉพาะเตี๋ยว 12 ชาม เกี๊ยวทอดตะหาก นี่เกรงใจนะ เลยกินแค่นี้ก็ได้”
.
.
เอ่อ....ไม่ต้องเกรงใจกรุแล้วววว เห็นแค่นี้กรุก็น้ำตาเอ่อแล้วสาดดดดด T^T
.
.
อีกไม่กี่วันถัดมา ก็พากันไปกินข้าวเย็นที่ Lotus
((food court ตามกระแสทุนน้อยนิยมเหมือนเดิม))
.
.
คราวนี้ตากรุมั่ง 5555+
.
.
บักเด็กแว๊น กินราดหน้า
ขอโทษราดหน้าธรรมดาๆเหรอจะกระเทือนกระเพาะ
อย่างมันต้อง หมี่กรอบ 2 ก้อน
((ราคาราดหน้าปรกติ 30 บาท งานนี้ ดีดตัวไปที่ 40 บาท))
.
.
ส่วนของดิชั้น ก็ต้องตามคอนเซปท์สาวรักสุขภาพ สาดดดด
แหนมเนือง 1 ชุดเล็ก
.
.
กินไป คุยไป ห่อไป เคี้ยวไป((ทุกลักทุเลนะ กินแหนมเนืองในที่สาธารณะเนี่ย))
และแล้วก็หมดทั้งคู่ในบัดดล -_-“
.
.
เดินเล่นให้อาหารคาวย่อยกันได้ซักพัก
ร้านไอติม คือ จุดหมายถัดไปของเรา โฮ๊ะๆๆๆ ^o^
.
.
คือน้อยคนนักจะรู้ว่าพิมง่ะ ชอบกินไอติมร้านนี้และรสชาตินี้มาก
แล้วเราก็ค่อนข้างที่จะโดนมองประมาณว่า
"อย่างพิมจะกินได้แค่ไหนกันเชียว"
.
.
หึ หึ หึ รู้อะไรน้อยไปซะแล้ว ^^
.
.
เวลาเพียงไม่กี่นาที พิมในขณะที่จ้วง ((ใช้คำว่า จ้วง ถูกแล้ว))
ไอติมรัมเรซิ่น จะหมด 3 ก้อนแล้ว
((เพิ่ม กล้วยหอมอีก 1 จานของชั้น และวิปปิ้งครีม 2 จุดของมานนน))
แต่อีกคนยังไปไม่ถึงครึ่ง ((กินแบบเรียบร้อยมากมาย))
.
.
ยัง ยังไม่อิ่มคับพี่น้อง
พิมขอต่อเหมือนเดิมอีก 1 ที่ในทันที ^^”
.
.
-_-“ มันบอกว่า อย่างนี้เค้าเรียกว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า
((เพราะเค้าคิดว่า เค้ากินเก่งแล้ว))
เพราะว่า ดิชั้น ซัด รัมเรซิ่น 6 ก้อน พร้อมกล้วย 1 จานภายในไม่กี่นาที
อิ่มแปร้ 5555+
.
.
ท่าทางตอนนี้ ไอติม 6 ก้อนจะไม่พอนะ
คราวหน้าพิมขอ earthquake รัมเรซิ่นคนเดียว ละกานนน ^^”
.
.
ว่าเรื่องกินที่สวาปามไม่น้อยหน้ากันแล้ว
การนอนก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกันนะ
แต่เราจะนอนกันต่างเวลากันบ้างเท่านั้น
.
.
บางทีคนนึงหลับเป็นตาย อีกคนจะนั่งดูทีวี ((21.00-22.30 น.))
รูปนี้หลับยกกอง หลังจากพากันเล่นถล่มที่นอนแล้วทั้ง 5 ตัว
หรืออีกคนกำลังมุ่งมั่นกับการซักผ้า แต่อีกนางหนึ่งหลับปุ๋ย ((ทุกเสาร์ หรืออาทิตย์ ระบุเวลาไม่ได้))
ZZzzzz…
.
.
อาการหลับลึกของแต่ละคน บางทีเราก็จะไม่ได้สนใจว่าอีกคนทำอะไร
.
.
อย่างเมื่อวันจันทร์พิมลาพักร้อน
เพื่อนร่วมงานและหัวหน้า ถามว่า “ลาทำไม”
พิมก็ตอบแบบหน้าตาเฉยว่า “ลานอนหลับยาวๆให้สะใจ”
.
.
ก็วันจันทร์ตื่นมามีสติสตังได้จริงๆอีกทีก็ 18.00 น. อะค่ะ
((ระหว่างวันมีตื่นมากินอะไรนิดหน่อยเพิ่มพลังแล้วหลับต่อ))
.
.
โรคขี้เซา ไม่ได้เป็นแค่คน ลุกลามไปยันหมา
โดยเฉพาะ อิพุก ที่ขี้เซาไม่แพ้แม่มันซักนิด อิอิ ^^
.
.

๑๑.๒๕.๒๕๕๑

......แว๊นซ์ สู่ สะพานพุทธฯ.....

โอ้ววววว หยุดไป 3 วัน
เหมือนสวรรค์ประทาน ได้พักผ่อนจริงๆ
คิดแล้วก็อยากลาพักร้อนอีก งี๊ดๆๆๆ >.<
.
.
วันเสาร์ ยามค่ำคืน
ครึ้มอก ครึ้มใจ กลิ้งไป กลิ้งมา ไม่มีไรทำ
เลยตกลงกันว่า เราไปหาที่แว๊นซ์ๆกันดีกว่า
((ตามประสา เด็กแว๊นซ์ กะเด็กสก๊อย 555+))
.
.
สะพานพุทธ คือ จุดหมายปลายทางของเด็กแว๊น และเด็กสก๊อย อย่างเรา
555+
.
.
หนุกดี ชอบๆ ไม่เคยนั่งมอไซค์ในยามค่ำคืนอย่างนี้
ไม่เคยได้ไปไหนไกลๆ ด้วยมอไซค์อย่างนี้
ไม่กลัว ไม่เสียว มีแต่สนุก เพราะได้เห็นบรรยากาศ ข้างทางได้อย่างเต็มตา
.
.
นานแล้ว ไม่ได้ไปเหยียบสะพานพุทธเลย
มากกว่า 5-6 ปีได้
.
.
ไปถึงที่นั่น ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ทุกอย่างยังคล้ายๆเดิม
((เสื้อผ้า ของกิน เด็กวัยรุ่น และเหล้าปั่น ขวดละ 35 บาท แหะ ^^” ))
.
.
แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาอย่างเห็นได้ชัด คือ ทอมเด็ก กร๊ากกกก ^o^
เยอะมากเด้อ ขอบอก 5555+
.
.
แบบว่าเยอะซะจนจะเดินชนกันตายเลยทีเดียว
((แต่ก็ถือเป็นอาหารตาให้ ดี้ชรา อย่างอิชั้นฮ่ะ ^^))
.
.
มองไปอยู่ร้านนึง อารมณ์ประมาณร้านเหล้าปั่น
ป๊าดดดด ติโธ่ะ ทอมเด็ก ท้างงงน้านนน คร๊าบบบพี่น้อง >.<
((อารมณ์เด็กรัชดา ซ.8 เด๊ะ!!! ว่าแล้วก็คิดถึง น้อง DKNY apple เขียว หุหุ))
.
.
แต่ก็เท่านั้นแหละค่ะ -_-“
ได้แค่เมียงมอง และแอบปาดน้ำหมาก+เลือดกำเดาจะไหล
((ไม่ใช่ความดันพรุ่งปรี๊ดดดนะ แต่จะโดนต่อยดั้งจนซิลิโคนหักเลือดกระฉูดมากกว่า T^T))
.
.
เข้าไปดูเสื้อผ้าร้านนึง ประมาณร้านขายเสื้อผ้าทอม
โอ้วววว แม่เจ้า ทอม 3 คน หาซื้อเสื้อผ้าในร้านนั้น
.
.
ไอ้เราก็กระลิ้มกระเหลี่ย ดูๆไป ดูเสื้อไป ดูทอมไป 555+
สบายใจเชิ๊บๆ ^^
.
.
นี่แหละหน่า เค้าว่า ความสุขของ ดี้ชรา
((เอาหน่า นิดๆหน่อย ไม่กันโน๊ะ))
.
.
ว่ากันว่า ((ไม่รู้ใครว่า แต่มันบอกว่า))
ไปถึงสะพานพุทธ ต้องเดินขึ้นไปดูวิว บนสะพาน
.
.
เอ้า...เอากะเค้าหน่อย
((สมัยสาวๆ ก็เคยไปสะพานพุทธบ่อยนะ แต่ก็ไม่เคยขึ้นข้างบนซะที))
.
.
ก่อนขึ้นแวะซื้อไอติมก่อน เค้าจะเรียกไอติมหรือเปล่าไม่รู้
แต่อร่อยดี ไม่แพง 3 ก้อน 15 บาท
.
.
เพียงแค่ก้าวแรกที่เหยียบบนสะพานเท่านั้นแหละพี่น้องงงงง *O*
ทอมอีกแล้ว นั่งกันให้เกลื่อนสะพาน
.
.
กร๊ากๆๆๆๆๆ โว๊ะ เว้ย เฮ้ย!!! วันนี้กรุทำบุญด้วยอะไรว่ะ
มีทอมมาให้เห็นเยอะ อิ๊บอ๋าย 5555+
.
.
ลัล ลั้ล ลา ทอม ท้อม ทอม ^^
((อารมณ์ดีสุดริด))
.
.
แหะๆ แค่ดูเฉยๆ ไม่ได้คิดนอกลู่นอกทาง
จริง จริ๊งงงงงง ((เสียงสูง สาดดดด)) ^^”
.
.
.
.
สรุปว่าที่ไป กรุก็ไม่ได้อะไรกลับมาเป็นของตัวเองเท่าไหร่
มีแต่เด็กแว๊นซ์ที่ได้สายข้อมือ ตัว P
ถามว่า P นี่คืออะไร มันบอกว่า พุก ไง
-_-“ เหรออออ รักลูกเกิ๊นนนน สาดดดด
.
.
อ้อ..ได้เสื้อ package คู่ สกรีนโคดชัด
.
.
เสื้อคู่นี้ ไม่ต้องตีความมาก ไม่มีนัยยะ
ไม่มีความหมายแอบแฝง ไม่มีซุกซ่อนสิ่งใดให้งวยงง
.
.
แต่เอามาจากชีวิตจริง ล้วนๆ base on true story
.
.
หน้าอกเสื้อ package คู่นี้เขียนไว้ว่า
“ถูกเสมอ~ ผิดตลอด”
5555+ ^o^
เห็นมั๊ยว่า ตรงกะชีวิตกรุสุดๆ
.
.

กรุชนะ!!!! เพราะกรุถูกเสมอ 5555+

ปล.1 แว๊นซ์ ผ่านสนามหลวง ได้เห็นพระเมรุด้วย ดึกแล้ว แต่คนยังเยอะมากๆ
ปล.2 ได้เห็นวัดพระแก้ว ในมุมที่เค้าพากันถ่ายรูปเยอะแยะ สวยจริงๆ
ปล.3 เฮ้อ~ กรุเนี่ยน๊า บ้านน๊อกกกก บ้านนอกกกก -_-“

๑๑.๒๑.๒๕๕๑

...สบายดี ไม่ต้องห่วง....

.
ศ แล้ว เหนื่อยแล้ว สำหรับอาทิตย์นี้
.
.
พรุ่งนี้ก็พร้อมที่จะตื่นสายๆ หลับสบายๆ พร้อมอิพุก
((น้องพุกเป็นหมาขี้เซา เหมือนพิมเลย))
.
.
แต่ความล้า ที่ผ่านมาช่างสะสม
.
.
ลาพักร้อน ปีนี้ยังเหลือ
เลยขอใช้สิทธิ์ที่มีซะหน่อย
.
.
วันจันทร์ที่ 24 นี้ก็จะเป็นวันที่เราได้นอนตื่นสาย เพราะลาพักร้อนไว้
สรุป 3 วัน ส-อา-จ จะขอตื่นสายแมร่งทุกวันเลย
((เหอะๆๆ ความสุขเล็กๆที่หาได้จากสิ่งเล็กๆน้อยๆนี่แหละ))
.
.
ช่วงนี้มือถือเปิดมั่งปิดมั่ง แล้วแต่’รมณ์
แต่พอเปิดปุ๊บ เจ้าหนี้ก็โทรตามยิกๆ 555+
.
.
ถามว่า จะโทรทำไมนักหนา
ถ้ามี กรุก็จ่ายให้มรึงแล้วเซ๊!!!
จะให้มรึงโทรทวงอยู่ได้ทำไม ทำอะไรไม่คิด
แสดงพร่ำเพรื่อ _*_ หึ หึ หึ
.
.
แต่ก็นะ หน้าที่ของมัน มีหน้าที่โทรตาม ก็โทรไป
แต่เรามีหน้าที่หนีหน้า ก็หนีไป
((เข้าคอนเซปท์ รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางเด๊ะ!!))
.
.
ปีหน้าฟ้าใหม่ อาจได้ลืมตาอ้าขา เอ๊ย!! อ้าปาก ทยอยใช้หนี้กันมั่ง
((บอกแล้วว่า ไม่มี ไม่หนี จ่ายช้า))
.
.
ไม่เอาๆ ไม่พูดเรื่องหนี้ เครียดๆ _*_
.
.
วันก่อนโน้น เอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง
ความจริงงบที่ตั้งไว้ ไม่เกิน 1000 แน่นอน
.
.
เอาเข้าจริงๆ ไอ้นี่เป็นนั่น ไอ้นั่นเป็นนี่ เปลี่ยนๆ ล้างๆ
.
.
สรุปจ่ายไปเกือบ 2 พัน
-_-“ ฮ่วย!!!
.
.
แถมทางร้าน ยังแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า
ยังต้องมีอะไรต้องมาทำอีก อย่าง 2 อย่าง
แล้วแถมก็ถึงเวลาเปลี่ยนยางหลังแล้วด้วย
.
.
เป็นไงล่ะ งานเข้า
.
.
เดือนหน้าถึงเวลาเสียตังก์อีกแล้วหรือนี่ Y^Y
ไม่เกิดมาเป็นลูกเศรษฐีให้มันรู้ไป เหอะๆๆ
.
.
บ่นอุบบ่นอิบ จนเพื่อนที่ทำงานเลยบอกว่า
.
.
พิมโชคดีแล้วที่เป็นอย่างนี้ เพราะลูกเศรษฐี พวกเค้าไม่รู้จักความลำบากหรอก
ไม่เหมือนพวกเรา เจออะไรเยอะดีออก นี่แหละรสชาดของชีวิต
.
.
-_-“เหรออออออออออออ
.
.
พูดถึงเรื่องโทรศัพท์
นิสัยนี้แก้ไม่หาย คือ ไม่ยอมรับเบอร์แปลก แล้วก็ชอบปิดเครื่องแบบถาวร
((ครึ้มอกครึ้มใจ ถึงจะมีเปิดบ้าง))
.
.
จนเจอคำถามแบบว่า
“ถ้ามีคนที่เป็นญาติ หรือใคร ที่เค้ารู้จักแล้วเค้าเดือดร้อนมีปัญหาจะทำไง”
.
.
อืม....ถามว่า แล้วกรุจะช่วยอะไรใครได้ I’m not a god!!!!!!
((ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย))
.
.
ถึงขนาดพูดไปว่า ถ้ามีใครต้องตาย ก็คงต้องปล่อยให้ตายไปก่อน
รู้ข่าวทีหลังก็ได้ไม่เป็นไร เอาไว้จะไปงานศพเอง
.
.
แต่ถ้ากรุตาย ไม่เป็นไร กรุจะเข้าฝันไปบอกเองนะ
.
.
เหอะๆๆๆ
.
.
พิมไม่รับเบอร์แปลก แล้วก็ไม่เคยติดใจอะไรกะเบอร์แปลกๆเหล่านั้นด้วย
ไม่เคยมีคำถามเกิดขึ้นว่า ใครกันนะโทรมา???
ไม่เคยอยากรู้ว่า มีอะไร ใครเป็นไรหรือเปล่า???
.
.
เพราะถึงยังไงเบอร์แปลกที่โทรมานั้น ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกะชีวิตนี่หว่า
ไอ้กรุก็ยังกินได้ ขี้ออกอยู่ เพื่อนพ้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ก็ยังอยู่สบายดี ((รึเปล่า???))
.
.
บางทีมีเบอร์มือถือแปลกโทรมาหลายรอบ 10 รอบได้
((ก็ไม่รู้ว่าใคร เจ้าหนี้ ลูกค้า เพื่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้))
.
.
นอกจากจะไม่สนใจแล้ว พิมก็มักจะสบถ แล้วพูดขึ้นมาลอยๆว่า
“พ่อมรึงตายเหรอ โทรมาอยู่ได้”
.
.
ไม่รู้สิ ก็พูดขึ้นมาลอยๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร
เพราะถ้าเป็นเรื่องสำคัญมากๆจริงๆ ต้องทิ้ง SMS ไว้สิ
((เพราะถ้าเป็นคนกันเอง หรือญาติจะรู้ได้เลยว่าพิมไม่มีทางรับเบอร์แปลก))
.
.
อาการไม่รับเบอร์แปลก ลุกลามไปจนถึง ปิดเครื่องยาว
.
.
อืมยาวๆ จริงๆ ยาวแค่ไหนไม่รู้ ((หาได้รู้สึกรู้สา หรือเดือนร้อน ใส่ใจสิ่งใดไม่))
แต่คนที่เดือดร้อนคือทางบ้านของตัวเอง ซะงั้น
.
.
ที่ผ่านมาปิดเครื่องยาว แม่ติดต่อไม่ได้ จนแม่ร้อนรน
จะขึ้นจาก ตจว. ให้น้าชาย มาตามหาพิมที่กรุงเทพฯซะให้ได้
((คงคิดว่าพิม อาจจะสิ้นชีพไปแล้ว เหอะๆๆ))
.
.
ทั้งที่ก็ไม่ได้มีญาติคนไหน รู้ว่าพิมอยู่ไหน อยู่ยังไง อยู่กะใคร ทำงานที่ไหน ทำงานอะไร
((ถามว่าจะตามหา ลูกสาวแม่เจอมั๊ยงานนี้))
.
.
เพราะล่าสุดพิมเปลี่ยนมาอยู่ที่ สะพานใหม่ได้ หลายเดือนแล้ว
แต่อยู่ตรงไหนของสะพานใหม่ พิมก็ไม่ได้บอกใคร
.
.
ไม่ได้บอกญาติ ไม่ได้บอกแม่ ไม่ได้บอกพ่อ
.
.
ก็อยู่มันไปซะอย่างนั้น อยู่มันไปเรื่อยๆ ทำงานไปเรื่อยๆ
ชีวิตใช้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ update ชิวิตอะไรกะทางบ้านเท่าไหร่
.
.
เบอร์โทร ที่ทำงานไม่ให้ เบอร์โทรที่ไหน ใครก็ไม่มี
.
.
งานนี้เลยทำเอาแม่แทบอกแตกตาย
ได้ข่าวว่า ไปร้องไห้ ที่บ้านญาติ บอกว่าติดต่อพิมไม่ได้มาหลายสิบวันแล้ว
-_-“ กำๆๆๆ กรุนี่บาปจริงๆ
.
.
โชคดี วันนั้นเข้าไปออนเอ็ม
((ทั้งที่ปรกติก็ไม่ค่อยได้ออน ถึงจะออนก็ทำ appear ไว้))
วันนั้นเกิดเฮี้ยน ออนเอ็มแบบ โชว์ on line เลยเจอญาติที่เอ็ม
.
.
สิ่งแรกที่โดนถามประมาณว่า
เป็นไร ทำไมติดต่อไม่ได้ หายไปไหนมา
รู้มั๊ยว่าป้านางเป็นห่วง จนจะให้น้าเค้ามาตามหาพี่ที่กรุงเทพฯ
ป้านางไปร้องไห้ เป็นห่วงพี่ที่บ้านหนูเนี่ย
โทรหาแม่พี่ ด่วนเลย
.
.
-_-“ หึ หึ หึ มาเป็นชุดเลยสาดดดดด
.
.
สรุปพิมก็โทรไปหาแม่ แล้วก็อ้างโน่น อ้างนี่ ((ตามประสาให้เค้าสบายใจ))
แล้วก็ฝากเบอร์อื่น ที่สามารถติดต่อพิมได้ไป
.
.
แล้วพิมก็พูดทิ้งไว้เหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา 13 ปีมานี้ ว่า
“แม่ไม่ต้องห่วง เค้าสบายดี มีอะไรโทรมาเบอร์เพื่อนนะ”
.
.
คราวนี้แม่ก็สบายใจแล้ว
เพราะทุกวันนี้ ถึงพิมก็ยังปิดเครื่องหรือไม่ก็ตาม
แต่แม่ก็จะรู้ว่าจะติดต่อพิมได้ที่เบอร์ไหน เวลาอะไร
.
.
ได้ข่าวว่า ปีใหม่ปีนี้ แม่จะขอขึ้นกรุงเทพฯเพื่อมาดูว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพิมซะหน่อย
หลังจากที่ละเลยมาเป็นเวลา 10 กว่าปี
.
.
แปลกเนอะ เราเป็นแม่ลูกกันแท้ๆ แล้วพิมก็ยังมีพ่อมีแม่อยู่แท้ๆ
แต่พิมกลับไม่เคยจะรู้สึกรู้สาอะไร
กะการที่อยู่ตัวคนเดียวในเมืองหลวงอย่างนี้
.
.
ไม่ว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต พิมจะมีเพื่อนอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม
พิมก็อยู่ของพิมได้ ยังคงไปเที่ยว ยังคงทำงาน ยังคงพักผ่อนได้ในแบบที่พึงจะเป็น
.
.
ไม่สบายก็ไปหาหมอ ปวดท้องแทบตายก็ต้องทนเอา
ไอ คอกๆ แคกๆ ก็อยู่ไป เมาหัวราน้ำ แฮ๊งแทบจะเป็นศพ ก็ทนไป
.
.
นานมาแล้วนะ นานมาก 13-14 ปีแล้วที่
ไม่มีพ่อแม่ให้อ้อนหรอก ในยามเจ็บไข้
ไม่มีพ่อแม่หายาให้หรอก ในยามไม่สบาย
ไม่มีพ่อแม่เอามือมาอังที่หน้าผาก แล้วถามว่าตัวยังร้อนอยู่มั๊ย
ไม่มีพ่อแม่ถามหรอกว่า วันนี้มีตังก์กินข้าวหรือเปล่า
ไม่มีพ่อแม่ที่เราจะบอกว่า แม่ หนูตังก์หมด โอนเงินให้ใช้หน่อย
ไม่มีพ่อแม่บอกสุขสันต์วันเกิด ในวันที่คล้ายวันเกิดของตัวเอง
.
.
พิมไม่เคยมีอะไรอย่างนั้น ไม่มีมานานแล้ว
แล้วก็ “ชิน” กะการไม่มีอย่างนั้นซะด้วย
.
.
รู้แค่ว่า
เราต้องอยู่ให้ได้ อย่างที่ทำให้พ่อแม่สบายใจที่สุด
แม้เราจะมีปัญหารุมเร้า
.
.
เราต้องอยู่ให้ อย่างที่ทำให้พ่อแม่ไม่เดือดร้อน ทั้งกายใจ และเงินทอง
แม้ว่าตังก์เหลือในกระเป๋าไม่ถึงร้อย
.
.
เราต้องมีแต่คำตอบที่บอกแม่ไปว่า สบายดี ไม่ต้องห่วง
แม้ว่าเราจะเพิ่งออกจาก รพ.
.
.
เราต้องหัวเราะให้แม่ได้ยินทุกครั้งที่โทรมาให้ได้
แม้ว่าเราเพิ่งปาดน้ำตาไปหมาดๆ
.
.
การจาก อกพ่อแม่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ((อายุแค่ 17-18 ปี))
มันสั่งสม ทำให้เราเป็นอย่างนี้นี่เอง
.
.
วันนี้ อายุปาไปเลข 3 แล้ว
เราก็ยิ่งแกร่ง ลุกลามไปจนถึงแข็งกระด้างมากขึ้น
.
.
แม้ชีวิตนี้ ที่ผ่านมาจะมีคนวนเวียนมาดูแลเราบ้าง
แต่ก็นั่นแหละ เค้าเข้ามาแล้วก็จากไปตามวัฏสงสาร
.
.
ทุกวันนี้ แม้จะไม่มีพ่อแม่ต้องคอยดูแลอย่างที่ควรจะเป็น
แต่อย่างน้อย ณ.เวลานี้ ชีวิตพิมก็ไม่ได้ลำบากลำบน หดหู่อะไร
.
.
เพราะพระเจ้ามักสร้างทุกสิ่งให้สมดุลเสมอ
.
.
ตอนนี้มี 1 ชีวิตก้าวเข้ามาในชิวิตพิม
ตอนนี้มี 1 หัวใจมามอบให้พิมหมดแล้ว
ตอนนี้มี 1 สมองที่คอยช่วยพิมคิดแก้ปัญหา
ตอนนี้มีหู 2 หูที่คอยรับฟังพิมทุกอย่าง
ตอนนี้มีตา 1 คู่ที่พร้อมจะดูแลพิมในทุกๆยาม
ตอนนี้มีมือ 2 มือที่คอยประครองและจับมือพิมไปด้วย
ตอนนี้มีเท้า 2 เท้าที่พร้อมจะเดินไปกับพิมในทุกๆที่
.
.
อ้อ...ตอนนี้มี 1 กระเป๋าที่พร้อมจะควัก ถ้าพิมงอแงจะกินหนม แหะๆ
.
.
เห็นมั๊ย พิมบอกแม่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง พิมสบายดี ^^
.
.

๑๑.๒๐.๒๕๕๑

....เสี้ยวหนึ่งของมุมมอง....

.
.
สุข-ทุกข์
.
.
เวลาแห่งความสุข มักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ
ตลกดี ที่ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน
.
.
แต่ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ช่างยาวนาน
แล้วก็แปลก ที่เรา มันจับจด อยู่กับความทุกข์นั้น
.
.
จะมีซักกี่คนที่ปล่อยวางทุกอย่างได้โดยที่ไม่ติดใจอะไร
บางทีคำพูดที่ว่า “ช่างมันเถอะ” มันก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะทีเดียวหรอก
.
.
รองเท้า
.
.
หลายครั้งแล้วหลายๆ คนมักมีคำถามว่า “ทำไม เปลี่ยนรองเท้าบ่อยจัง”
จะว่าขี้เบื่อก็ไม่ใช่
แต่แค่รู้สึกว่า เราพยายามหารองเท้าคู่ที่เราชอบ แล้วก็ใส่สบายเท้าที่สุดมากกว่า
.
.
เพราะรองเท้าบางคู่ ถึงจะดูดีและราคาแพง แต่ใส่แล้ว กัดเท้าชะมัด
หากแต่บางคู่ ที่ดูแล้วแสนจะธรรมดา ราคาก็ถูก แต่กลับใส่สบายสุด
.
.
เหมือนความรัก
คนที่จะอยู่กับเราได้ตลอดไป ไม่จำเป็นต้อง perfect
แต่เค้าต้องเป็นมนุษย์ที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุดต่างหาก
.
.
ความแก่
.
.
บางทีมันก็ยากที่จะให้คนอายุเกิน 30 ปรับเปลี่ยนอะไร เพื่อใคร จนไม่เหลือความเป็นตัวเอง
คงจริงอย่างที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก
.
.
บางทีเราก็ก้าวข้าม ร้อน หนาว ฝน มาซะไกล เกินกว่าที่จะโกหกตัวเองไปได้
เราคง “เหนื่อยมาก” ที่จะโน้มไปหาใคร ทั้งที่เราปวดหลังจะแย่ ((ก็เราแก่แล้วนี่นา))
.
.
คุณค่า
.
.
เคยอกหัก ตีอกชกหัวตัวเอง แล้วก็ร่ำไห้ พล่ามบอกตัวเองว่า “เรามันไม่มีค่า”
. วันนึงได้สติขึ้นมา มองกลับกัน ทุกคนมีค่าของความเป็นคน เท่ากันหมด
เพียงแต่ใครคนนั้น เค้ามองไม่เห็นมันตะหาก หาใช่ว่า เราไม่มีค่าที่ไหนกัน
.
.
สายน้ำ
.
.
เวลา ผ่านแล้วผ่านเลย สายน้ำไหลไปแล้ว ไม่มีวันไหลย้อนกลับ
สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว มันเรียกกลับคืนมาไม่ได้
.
.
จริงอยู่ เวลานั้นแสนจะมีค่า แต่บางครั้งเราก็นั่งหายใจทิ้งไปเฉยๆ เพียงเพื่อ “ฆ่าเวลา” เท่านั้นเอง
สายน้ำไหลกลับได้ เกิดขึ้นที่ไหนของโลกบ้าง บอกที คงอาจมี แต่ช่างหายากเหลือเกิน
.
.
สายตา
.
.
สังขารมันเป็นเรื่องไม่เที่ยง
วันนี้สวย ดูดี ดูหล่อ วันข้างหน้า เนื้อหนังเหี่ยวย่น พุงเผละ แล้วเราจะยังรักเค้าอยู่ไหม
.
.
ถ้าวันนี้ เราไม่ได้ใช่แค่ “สายตา” มองเค้า จะวันไหนเราก็ยังรักได้ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราใช้ “หัวใจ” มอง
.
.
เจ้าชาย
.
.
บางครั้งเค้าก็ดีกับเรามากมายเสียจน ทำเราหลงระเริงคิดว่า ตัวเองเป็นดั่ง “เจ้าหญิง”
ครั้นพอเราบอกว่า เค้าเป็นเหมือน “เจ้าชาย” ที่มอบแต่สิ่งพิเศษและสวยงามให้
.
.
เค้ากลับปฏิเสธที่จะรับคำเปรียบเปรยเช่นนั้น
แต่เค้ากลับบอกว่า ขอเป็นเพียง “ข้าราชบริพาร” ที่อยู่รับใช้ด้วยความซื่อสัตย์ ก็พอแล้ว
.
.
พอเถอะ...แค่นี้ก็รักจะแย่อยู่แล้ว
.
.
อย่าพึ่งยิ้มเยอะ ย้อนไปอ่านข้างบนสุดอีกที
.
.

๑๑.๑๘.๒๕๕๑

.....SOY PEPTEIN....

.
.
ช่วงนี้ที่ทำงานเค้าไปซื้อ PEPTEIN ที่โฆษณาในทีวีมาให้กิน
((สวัสดิการเล็กๆน้อยๆที่พึงจะได้ พึงจะมี Y^Y))
.

.

ไอ้เราก็ไม่เคยรู้หรอกนะ ว่ามันเป็นไง

รู้แค่ว่า กินแล้วมันน่าจะฉลาด 555+

.

.

เลยอยากลองกินซะหน่อย

.

.

เห็นเค้าเขียนข้างขวดไว้ว่า

“เพื่อรสชาติที่ดี กรุณาแช่เย็นและเขย่าก่อนดื่ม”

.

.

น๊านนนน!!! แสดงว่า ถ้าไม่เย็นและไม่เขย่ามันต้องไม่อร่อยแน่นอน
((คิดเอง เออเองตลอด -_-"))

.

.

ว่าแล้ว กรุเลยจัดการเอา 1 ขวดไปแช่ซะมันใต้ช่อง freeze หวังว่าจะให้เย็นจัดๆ

แล้วก็แช่มันไปเลย 2 วัน 1 คืน ((กลัวไม่เย็นจัด 5555+))

พอเอาออกมาก็ทำการเขย่าๆๆๆๆ -_-“ ซะฟองฟ่อด

((บ้านน๊อกกกก บ้านนอก))

.

.

พอเปิดฝากระดกเท่านั้นแหละพี่น้อง

.

.

อึก 1 -_-"

อึก 2 _*_

อึก 3 U_U

.

.

>.< กรี๊ดดดดดด นี่มันยาลดไข้สมัยกรุเด็กๆชัด

((ป๊าดดดด ลาวโดนหลอกเด้อบัดหนิเด้อออออ))

หาความสุนทีรย์ทางลิ้นและลำคอไม่เจอเล๊ยยยยยย

.

.

แต่!!! ต้องดื่มให้หมดขวดค่ะ เพราะ ทราบมาจากเพื่อนที่ไปซื้อมาว่า “แพง”

((เหตุผลเดียวจริงๆที่ทำให้กรุต้องกระดกให้หมด เวงกำ))
.

.

นี่ขนาดเค้าซื้อมาให้กินแบบไม่แพงแล้วนะเป็น soy peptide 4000

ถ้าเป็น soy peptide 8000 ละก็ราคาก็จะแพงกว่าประมาณเท่าตัว

.

.

ไอ้ที่พิมกินเข้าไปเนี่ย เค้าว่าจะไปบำรุงสมองส่วนหน้าด้วยแหละ

.

.

โฮะๆๆๆๆ มิน่าล่ะ พอกินแล้วรู้สึกสมองส่วนหน้า ฉล๊าดดดด ฉลาด

^______^ ลั้ล ลั้ล ลา

.

.

แต่เอ้????

ทำไม ดูๆไป กรุยังดูโง่ๆอยู่ว่ะ ^-^"

.

.

อ้อ!!!

.

.

ได้รับคำตอบว่า

.

.

นั่นคงเป็นเพราะสมองส่วนกลางและหลังยังไม่ได้รับการบำรุงนั่นเอง

มิน่า!!!!! กรุเลยยังโง่เหมี๊ยนนนนเดิม -_-“ 555+

.

.

ฮ่วย!!! ((เอาว่ะ ของฟรี อย่าคิดเย๊อะ))

.

.

ปล.ความจริงของเค้าก็ดีและไม่แพงหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับคุณภาพที่จะได้รับ

.

ปล.1 แต่กรุโง่เองที่คิดไปเองว่า สินค้าที่มีคำว่า SOY มันน่าจะเหมือนนมไวตามิ้วซะงั้น

.

ปล. 2 กรุคิดผิดเท่านั้นเอง 5555+

.

.

๑๑.๑๗.๒๕๕๑

เปล๊า....ไม่ได้ลำเอียงสักนิด...

.
.
เขียนกลอนไว้หน้าก่อน
ยัง...ยัง ไม่ได้เป็นไร ยังสบายดี
หุหุหุ ^^
.
.
อารมณ์สุนทรีย์ไปนิสสสส
เลยพากันถามใหญ่ ‘รมณ์ไหนว่ะ
.
.
ไม่มีไร วันนั้นว่าง
เลยใช้เวลา 2 ชม.ที่มีกลั่นกรองออกมา
.
.
ลิเกไปนิด แต่พอ วกกลับมาอ่านเองอีกที
“สำนวนโวหาร เดิ้น สาดดดด 5555+”
.
.
วันหยุด ส- อา ชอบมั่กๆเพราะได้ตื่นสายๆ
นอนคุดคู้ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ
((ที่มีกลิ่นตุตุ ของอิพุกด้วย -_-“ หอมชื๊นนนจาย หึ หึ หึ))
.
.
แต่ก็มีบาง ส-อา ที่เราตะลอนๆไปโน่นมานี่บ้างตามประสา
.
.
อย่างเสาร์โน๊นนนน เราก็พากันเที่ยวเล่นที่คลอง 3
พาพี่หริ่ง กะน้องพุกไปด้วย
นานแล้วที่เด็กๆไม่ได้วิ่งเล่น สนุกๆอย่างนี้
((ปรกติ โดดจั๊มๆ แต่บนฟูก))
.
.
คราวนี้เด็กๆได้ไปเจอสวนเล็กๆข้างบ้าน
พี่หริ่งสนุกสนานมากกะการโดดจั๊มๆบนแท่นทางเดิน
.
.
น้องพุกที่ไม่เคยได้เจอต้นไม้ ไม่ได้เจอดินมาเป็นปีๆ
.
.
ปรกติถ้าพาเด็กๆไปบ้านของตัวเองที่ ตจว.ก็ไม่ได้ให้เด็กๆได้เหยียบดิน
((ไม่ได้พาลูกกระแดะแตะดินไม่ได้))
แต่ที่บ้านรอบรั้วไม่มิดชิด พอปล่อยเดินเล่นปุ๊บ
พวกเด็กนรก จะพากันเตลิดวิ่งหนี ออกนอกรั้วบ้าน
ต้องได้วิ่งไล่จับ ไล่ตะครุบกันทุกที Y^Y
.
.
แต่ที่คลอง 3 แม้ พท.จะไม่ได้มากมายอะไร
.
.
แต่ก็พอให้เด็กๆได้วิ่งเล่นได้ดมโน่นดมนี่ ดูนั่นดูนี่ ได้อย่างสนอกสนใจ
.
.
ข้างบ้านมีบ่อปลาเล็กๆ ((ที่พี่หริ่ง แอบไปกินน้ำที่บ่อได้ด้วย))
.
.
บรรยากาศสวนเล็กๆข้างๆบ้าน ร่มรื่น
พอให้รู้สึกถึงความแตกต่างกับห้องสี่เหลี่ยมๆเล็กๆแคบๆของตัวเองได้
.
.
ธรรชาติสีเขียว แม้มันจะเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง ^^
.
.
Blog หน้าก่อนๆ เอาฝาแฝดน้องพุกให้ดู
วันนี้ แวะเอาฝาแฝดข้าวกล้องมาให้ดู
.
.
เป็นตุ๊กตาชิวาว่าพวงกุญแจที่ซื้อมาจากหน้าราม
เห็นแล้ว เออ...เหมือน อิก้อง เลยว่ะ ก็เลยเสียตังก์ซื้อมา _*_
.
.
แล้วก็หันไปเห็น ET ตัวเบ่อเริ่ม
กรี๊ดกร๊ด ตื่นเต้น อยากได้ๆ
คนขายบอกว่า “น่ารักดีนะค่ะ น่ารักแบบแปลกๆ”
-_-“
((พูดเหมือนเจ้าของร้าน ที่ตะวันนา ตอนเราซื้อ พวงกุญแจ ET ตัวเก่ามาเปี๊ยบเลย))
.
.
แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อมาหรอก ((ยังทำใจกะราคาอยู่ 5555+))
.
.
.
.
เมื่อคืนจับเด็กๆตัดเล็บทั้ง 4 ตัว
แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น
ถึงขนาดทำบางคนสะเทือนใจอย่างหนัก _*_
((เกือบจะเตะ กรุที่มีอยู่ ท่อนเดียว ให้ขาดเป็น 2 ท่อน สั้นๆแระ))
.
.
กรุตัดเล็บพี่หริ่ง ลึกไปหน่อย
พี่หริ่งเลือดไหลอยู่ตั้งหลาย ชม.
.
.
อิพิมทำอะไรไปมากกว่านั้นไม่ได้
นอกจากทำหน้าสำนึกผิด ^-^”
.
.
ตื่นเช้ามา ที่นอนเกรอะกรังไปด้วยเลือดพี่หริ่ง จางๆ
สงสารลูกก็สงสาร แต่ทำไรไม่ได้ นอกจาก
“แม่ ขอโต้ดดดดด Y^Y”
.
.
แถมยังโดดค่อนแคะ กระแหนะกระแหนว่า
“นี่ถ้าทำน้องพุกเลือดไหลบ้าง อยากรู้นัก แม่มันจะทำหน้าไง”
.
.
หึ หึ หึ
ไม่ต้องห่วงว้อยยยยย
.
.
เพราะจากประวัติการตัดเล็บของเด็กๆที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกล้อง ข้าวกล่ำ พี่หริ่ง ล้วนแต่โดนพิมตัดจนมีเลือดแล้วทังนั้น
ยกวันน้องพุก ที่พิมจะตัดพิถีพิถันเป็นพิเศษอยู่แล้ว 555+
.
.

๑๑.๑๔.๒๕๕๑

.....เมื่อเหมันต์พัดผ่าน....

.....
.....
ลมหนาว พัดหวน อีกครั้ง
ให้นึกถึง ความหลัง ครั้งเก่าก่อน
สายลมโชย ยะเยือกเย็น ยามล้มนอน
สายลมอ่อน พัดพา กระทบกาย
.....
.....
ปีแล้วปีเล่า เฝ้าพ้นผ่าน
มีรอยยิ้ม นงคราญข้าง ไม่ห่างหาย
มีความรัก ให้ซุกอุ่น อยู่ข้างกาย
ลมเหน็บหนาว พลันมลาย ยามใกล้เธอ
.....
.....
ให้นึกถึง สายหมอก อยู่ตรงหน้า
ให้ลำลึก แววตาเศร้า เคล้าเสมอ
ให้หวนคิด รอยยิ้ม พิมพ์ใจเธอ
ให้โหยหา อ้อมกอดเธอ มิรู้คลาย
.....
.....
เหตุเพราะรัก มักเริ่มต้น ยามหนาวเหน็บ
พึงขอเก็บ ความทรงจำ มิห่างหาย
สายลมเอื่อย พลัดพริ้ว เกาะทิวกาย
ยังตราตรึง มิรู้คลาย ถึงบางคน
.....
.....
หากแต่ลม มิอาจพัด หวนกลับแล้ว
ทุกสิ่งอย่าง ผ่านพ้นแผ้ว ทุกแห่งหน
แม้สายลม กระทบร่าง และตัวตน
เพียงนึกถึง ใครสักคน ใช่พบพา
.....
.....
ความทรงจำ ดีๆ ขอเก็บไว้
เก็บให้ลึก สุดใจ ใช่โหยหา
เก็บเป็นสาย ลมพัดเอื่อย ใช่นำพา
เก็บรอยยิ้ม เก็บแววตา นิจนิรันดิ์
.....
.....
ฤดูเปลี่ยน ทุกอย่างแปร ผันหมดสิ้น
นกพลัดถิ่น ดินเปลี่ยนสี หลากรังสรรค์
ดั่งใจคน เปลี่ยนแปรปรวน ชวนจำนรร
หาได้มี สิ่งใดมั่น นิรันดร
.....
.....
และแล้วเล่า ลมพริ้วพา มาอีกครั้ง
สร้างความหวัง กำลังใจ ให้ถ่ายถอน
เกลียกเกลือกข้าง ลำกาย ให้ก่ายนอน
สายลมอ่อน ปะทะใจ ใช่หนาวเย็น
.....
.....
เหตุเพราะมี แววตาอุ่น อยู่เคียงข้าง
เหตุเพราะมี กายร่างหนึ่ง ให้แลเห็น
เหตุเพราะมี รักแผ่ซ่าน ขจัดเย็น
เหตุเพราะมี เฉกเช่นเธอ เสมอกาย
.....
.....
ขอซุกไซร้ ไล่เลียง เคียงแบบนี้
อ้อมกอดหนึ่ง ที่พึงมี มิห่างหาย
ให้อบอุ่น อิ่มเอมใจ มิรู้คลาย
ให้หนาวเหน็บ วางวาย มลายพลัน
.....
.....
ต่อลมหนาว พริ้วไหว ใช่ทานทก
ต่อความเหงา คลุมปรก ใช่ทกท้าน
ต่อทรงจำ ย้ำนึกคิด ใช่ทนทาน
ต่อความรัก เคยกรีดกราน ใช่ทานทน
.....
.....
ฤดูเริ่ม สิ่งใหม่เริ่ม เสริมใจแกร่ง
ลมพัดแรง เสริมใจแข็ง แข่งครั้งหน
ให้ยิ้มได้ หยัดยืนได้ ด้วยตัวตน
ให้หมองม่น จนตรอกสิ้น ทิ้งอินทรีย์
.....
.....
เพียงหนึ่งก้าว ที่เธอ ได้พบผ่าน
เพียงหนึ่งอ่าน ความคิด ในจิตนี้
เพียงเมตตา ที่ยื่นให้ ด้วยไมตรี
เพียงหนึ่งความ รู้สึกดีๆ ก็อิ่มใจ
.....
.....
ขอเธอประ ครองร่าง ไหวของฉัน
ให้คงมั่น ด้วยรักภักดิ์ สุดสดใส
ขอเธอโอบ อ้อมอารี ด้วยบริสุทธิ์ใจ
ขอคงไว้ ด้วยหัวใจ และ กรุณา
.....
.....
เพราะสายลม พรหมลิขิต ขีดเขียนไว้
พัดสองกาย สองใจ พานพบหน้า
เขียนลิขิต ขีดเส้นไว้ ดั่งชะตา
ให้เราสอง พบพานพา ดั่งเกมกล
.....
.....
ขอขอบคุณ สายลม ห่มฟ้านี้
ขอขอบคุณ ผู้แสนดี ที่แห่งหน
ขอขอบคุณ ความรักมอบ สุดแยมยล
ขอขอบคุณ ไมตรีล้น จำนรรจา
.....
.....
และไม่ว่า ฤดูกาล กี่ผ่านพ้น
ร้อนหนาวฝน สายวสันต์ คิมหันต์สา
เหมันต์ล่วง เลยผ่าน กาลเวลา
เพียงมีเธอ แนบอุรา ก็อุ่นทรวง
......
......
จักรัก อย่างพึ่งมี ที่จะเป็น
จักเย็น อย่างใจ ใช่ห่วงหวง
จักซื่อ สัตย์มั่น ในใจทรวง
จักภักดิ์ อย่างแน่นหน่วง ตวงเติมเต็ม
.....
.....