๑๐.๓๑.๒๕๕๑

.....ฮาโลวีนเดย์.....

สวัสดี วันฮาโลวีน
.
.
“อยากดูกูตายนักใช่มั๊ย!!!”
.
.
ประโยคโคตรคลาสสิคจากหนังเรื่อง โปรแกรมหน้าฯ
.
.
ถึงจะกลัวผี แต่เป็นห่าอะไรไม่รู้ ชอบดูหนังผี
.
.
85% ของหนังผีไทยที่เข้าฉาย
ส่วนใหญ่ไม่พลาด
.
.
แล้วเรื่องนี้จะพลาดได้ไง
.
.
ตั้งตารอดูนานแล้ว
เมื่อวานเลยพากันไปดู ณ.เวลา 21.10 น.
.
.
เวลาออกมา 5 ทุ่มกว่าๆพอดี ((เออ...ดีเลยกำลังหลอนได้ที่))
.
.
ส่วนใหญ่ดูหนังผีอย่างนี้ แล้วไม่คุ้มหรอก
ค่าตั๋ว 120 จะได้ดูซัก 60 บาท ที่เหลือ 60 บาท คือปิดตา ((อดดู))
.
.
แต่เรื่องนี้ คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า
คงได้ดู 20 บาท แล้วอีก 100 บาทคงสูญไปกับการเอาผ้าปิดตาไว้ -_-“
.
.
แต่...ผิดคาด!!!!!
.
.
เพราะกรุได้ดูแค่ 10 บาท อีก 110 บาท
กรุมุดไม่กล้าดู และเอาผ้าปิดตาตลอด Y^Y
((แมร่งแค่ฟังแต่เสียง หัวใจกรุก็จะวายแล้ว สาดดดด))
.
.
หนังผีเหี้ยอะไรไม่รู้ ทำกรุตกใจได้ทุกนาที
((ทำออกมาให้น่าตกใจทุก shot เกิ๊นนนน กัวววว _*_))
.
.
และแน่นอน ทั้งโรง มีกรุกรี๊ดลั่นโรง อยู่คนเดียว >.<
กรี๊ดบ่อยเกิน จนเริ่มอายเอง Y^Y
.
.
แต่พอผีมา กรุก็สติสตังหลุด กรี๊ดอีกแล้ว -_-“
.
.
ไอ้อ้อมบอก
“พี่พิมแมร่งทั้งโรง กรี๊ดอยู่คนเดียว จริงๆด้วย เชื่อแระ” .
.
เอ้า!!! ก็เค้ากัวนี่หว่า
.
.
ยัง ยังไม่พอ กลับมา หลอนอีกทั้งคืน
นอนไม่หลับแมร่งเลย
สะดุ้งตื่นมาซักตอนตี 3 ตี 4
.
.
ไอ้เหี้ย!!! ทำไงดี ใครจะช่วยกรุได้เนี่ย เวลานี้
หลอนฉิบหาย
.
.
ภาพผีในหนังแมร่งช่างติดตาเหลือเกิน
.
.
อุตส่าห์กลับมาดู ละคร เป็นต่อ ให้ขำๆ
((หวังว่ามันจะช่วย ให้เปลี่ยน mode ความรู้สึกได้))
.
.
แต่เปล่า แมร่งไม่ช่วยเหี้ยอะไรกรุเล๊ย!!!
ตกดึก กรุหลอนคนเดียว หนักเลย สาดดดด Y^Y
.
.
ยังติดหู ติดตา ติดใจ กับคำพูดนั้น
“อยากดูกูตายนักใช่มั๊ย!!!”
.
.
อยากจะบอกคุณผีชบาว่า
“เปล่า ไม่ได้อยากดู ขอโทษนะที่เข้ามาดู แต่กรุดูมรึงไป 10 บาทเองนะ”

((โกดอะไรนักหนาเนี่ย ขอดูหน่อยไม่ได้หรือไง))

.
.
แมร่งตอนก่อนเข้าโรง ไม่น่าไปเล่นเส้นผมมันเลย
มันเลยตามมาหลอนกลางดึกเลยเนี่ย เวงกำ Y^Y
.
.
ปล. ดูรูป อัพเดทใหม่ให้หน่อย ดูผอมลงมั่งยัง -_-"
.
.

๑๐.๒๙.๒๕๕๑

"ความเกลียด"

เคยอ่าน e-mail fw>>> ฉบับนึง
.
.
คุณครูเคยสอนนักเรียนคนนึง เอาไว้ว่า
“ความเกลียด” ก็ไม่ต่างจากการเอาผลไม้ซักลูกมาผูกติดกับตัวเอง
.
.
ผูกติดชนิดที่เรียกได้ว่า ห้ามเอาออก
ไม่ว่าจะไปไหน มาไหน ทำอะไร กิน - ขี้ – ปี้ - นอน ZZzzz…
((เอ่อ....เด็กนักเรียน ไม่ต้องปี้ ก็ได้มั้ง ยังเด็กอยู่))
ก็ต้องผู้มันไว้กะตัวตลอดเวลา
.
.
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ห้ามทิ้ง
มันจะเน่า เหม็นยังไง ก็ห้ามทิ้ง
.
.
เด็กเลยถามว่า “ครู ((มรึง)) สอน ((เหี้ย)) อะไร((กรุ))เนี่ย”
**หมายเหตุ คำในวงเล็บกรุเติมเอง แหะๆ ^^ **
.
.
คุณครูเลยบอกว่า
ก็ “ความเกลียด” ของเรา
ก็ไม่ต่างอะไรจากผลไม้ลูกนั้นหรอก
ถ้าเราไม่รู้จักละทิ้ง “ความเกลียด” ออกไปจากใจ
มันก็จะติดที่ตัวเราตลอดไปเช่นกัน
.
.
นานๆเข้า “ความเกลียด” ก็เป็นแค่ “เศษขยะ”
ถ้าไม่ทิ้งมันไปซะ เราก็จะเหมือนเอา “เศษขยะ” ผูกติดตัวไว้ ตลอดเวลา
.
.
แต่ถ้าเราไม่ยึดติดกับ “ความเกลียด” เราก็จะโล่งสบาย
ไม่มี “เศษขยะ” ในใจ ให้รกรุงรัง อีกต่อไป
.
.
อืม...อ่านแล้วก็ทำให้คิดได้เยอะ
เออ...เว้ย!!! มันเป็นอย่างนั้นจริงแหละ
.
.
“ความเกลียด” ไม่เคยสร้างสรรค์ จรรโลงโลกเลยซักนิด
รังแต่จะทำให้เราจิตใจตกต่ำ
.
.
แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ
คนเรา มันก็เป็นแค่มนุษย์ ยากนักที่เราจะเลี่ยง “ความเกลียด” ได้
.
.
พิมเองก็เช่นกัน
พิมเกลียดหลายสิ่งหลายอย่าง
คน พืช สัตว์ สิ่งของ
อันไหน สิ่งไหน ที่เกลียด ก็เกลียดแมร่งหมดแหละ
.
.
บางครั้งสิ่งที่เกลียด ก็ยากที่จะเลี่ยงไม่ปะทะได้
.
.
มีสิ่งเดียวที่ทำได้คือ “เผชิญหน้า”
((พูดเหมือนต้อง ออกรบ ไงไม่รู้ -_-“ ))
.
.
แต่ก็นั้นแหละ เราไม่ได้เผชิญหน้ากะอะไรหรอก
แต่เรากะลัง เผชิญหน้า กะสิ่งที่เรา เกลียด ตะหาก
.
.
“ความเกลียด” อย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ เวลานี้คือ “เกลียดคน”
.
.
ในขณะที่วัยรุ่นหนุ่มสาว สมัยนี้กำลังคลั่งไคล้กระแส K
.
.
แต่พิมเอง ไม่หรอก ไม่ใช่พิมคนเดียวหรอก
ต้องเรียกว่า คนทั้งออฟฟิศ พิมตะหาก
พวกเรากลับรู้สึก “ยี้” กะทุกสิ่งอันที่เป็น K มากๆ
โดยเฉพาะ “คน”
.
.
ไม่ว่าจะทัศนะคติ การทำงาน มุมมองความคิด วิสัยทัศน์
หรือทุกๆสิ่งอันของคนพวกนี้
.
.
ล้วนแล้วแต่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เหยียดชนชั้น
โกงกิน คิดหาแต่ประโยชน์ส่วนตน ดูถูกคน
เสียงดัง โวยวาย สถุล งก แล้งน้ำใจ
ช่างประจบสอพลอ ((คนที่เป็นนาย))
หลอกลวง เอาแต่ใจ ช่างติ พูดอะไรไม่รู้จักคำว่าถนอมน้ำใจ
ดีแต่ปาก ชุ่ย พร้อมที่จะหมกเม็ดทุกสิ่งอัน เพื่อผลประโยนช์ตนเองตลอดเวลา
ไม่มีคำว่า ยุติธรรม และ.....
>.< บลา บลา บลา
.
.
ทำไมหนอ ทำไมพิมช่างสรรหา ((ห่า)) อะไร มากล่าวโทษเค้า
ไม่หรอก พิมไม่ได้กล่างโทษหรอก
แต่มันคือสิ่งที่พวกเราคิดเห็นว่าใช่ ((ลองรวบรวมจากการสอบถามคนทั้งออฟฟิศมาแล้ว))
.
.
4 ปี ของการทำงานที่นี่
4 ปี ของการเผชิญกับสิ่งเลวร้ายจากก้นบึ้งของคนพวกนี้
4 ปี ของการดิ้นรนเอาตัวรอด
4 ปี ของการเจอกับ 3 generations เลว เล๊ว เลว
4 ปี ที่ต้องเจอทั้งคนใน และคนนอกที่เป็น K
.
.
คงพอจะทำให้คุณรู้ได้ว่า
พิมซึบซาบ ความเป็น K ในอีกมุมมองนึงได้แค่ไหน
.
.
แต่พอครั้นถามกลับมา
“แมร่ง ถ้าแมร่งเวลาร้ายขนาดนี้ แล้วพวกมรึงยังหน้าด้านอยู่กันทำไม”
.
.
ไม่หรอก ไม่ได้หน้าด้านอยู่หรอก
แต่มันไม่มีที่ไป ตะหาก 5555+
.
.
อะล้อเล่งๆ คำว่าไม่มีที่ไป คงไม่ใช่
เพราะตอนนี้เรามีตัวอย่างให้เห็นแล้ว
.
.
เรามีตัวอย่างให้เห็น ถึงคนที่โบยบินจากไปสู่ความหวังใหม่อย่างเปรมปรีด์
.
.
เราได้แต่ยิ้มและดีใจกะเค้า
((ความจริงมีอิจฉาประกอบด้วยแหละ แหะๆ))
.
.
คนที่จากไป หลายต่อหลายรุ่น ทิ้งคำๆนึงเอาไว้ว่า
“มีลูกมีหลาน บอกไว้อย่าทำงานกะคนชนชาตินี้เป็นอันขาด เข็ดจนตาย”
.
.
พิมเอง ก็เป็นคนนึง ที่บอกได้เลยว่า “เข็ด”
.
.
ตอนนี้ก็ยอมรับแหละ ไม่มีที่ไป 555+
แต่ต้องใช้คำว่าไม่มีที่ไป ที่ดีกว่านี้ไม่ได้ จะดีกว่ามั้ง
((ที่นี่ยังมีดีรึ๊????))
ก็มีนะ คิดในแง่กลับกัน
ที่นี่สอนให้เรารู้จักคำว่า “อดทน” กะสิ่งอัปมงคล
ทั้งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรมได้อย่างดีเหลือเกิน
.
.
พิมเคย felt มากๆกะบางสิ่งบางอย่างที่นี่
((ไม่หรอกไม่ใช่พิมคนเดียว))
เราเคยได้รับความรู้สึกโคตรแย่มากๆ
เราเคยเสียน้ำตา เราเคยเสียน้ำลาย เราเคยเสียความรู้สึก
เราเคยเสีย self
แต่....เรายังอยู่
.
.
_*_ อืมนั่นสิ ทำไม ทำไมเรายังอยู่
เพราะเราไม่มีที่ไปเหรอ ก็ทั้งใช่และไม่ใช่
เพราะเราลองเปรียบเทียบแล้วที่นี่เรายัง “ทน” อยู่ได้อีก
.
.
และที่สำคัญ เราต้องอยู่ไปพร้อมกับคำว่า “เกลียด” งั้นหรือ
คำตอบคือ “ใช่!!!”
.
.
Y^Y ทำไมชีวิตน่าเศร้าและน่าเอน็ดอนาทใจขนาดนี้หนอ
.
.
วันนี้พิมมาเขียนถึงเรื่องชีวิตที่ต้องเผชิญกับวิบากรรมแต่เช้า
เพราะพิมอึดอัด และอยากระบาย ก็แค่นั้น
ทำไมเหรอ หรือพิมเขียนมันไม่ได้หรือไง
.
.
จะมีใครรู้หนอ กระแส K ที่พวกเด็กๆคลั่งนักหนา
อีกมุมนึง ยังมีอะไรที่เลวทรามซ่อนอยู่
.
.
ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้กล่าวโทษเหมารวม
คนทุกคนมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
((แต่ให้ตายเหอะ พวกนี้ ที่กรุซวยเจอ แหมร่งหาดีได้ยากจริงๆ))
.
.
บางทีก็มามองว่า ทำไมว่าแต่เขาไม่ดูหัวกะลาเงาตัวเอง
นี่แหละ ตอนนี้กะลังดูอยู่ และรู้ตัวเอง มีสติสัมปชัญญะอย่างที่สุดว่า
“ความเกลียด” มันก็เหมือน “เศษขยะ” อย่างนั้นจริงๆ
.
.
หากแม้ เราละทิ้งสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงในจิตใจไปได้
เราคงหลุดพ้นไปแล้ว
แต่ก็นั่นแหละ เรายังไม่หลุดพ้น และยังคงวงเวียนอยู่ใน “วัฏสงสาร”
.
.
เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมา กำลังจะบอกว่า
พิมเองก็ยินดีที่จะยังคงผูกผลไม้ลูกนั้นไว้ที่เอวตลอดไป
.
.
ถึงมันจะเน่า มันจะเหม็นโฉ่
มันจะน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงแหละน่าสมเพชเวทนาแค่ไหน
.
.
แต่พิมก็รู้ตัว และยอมรับมัน
.
.
อย่าพึ่งมองเรามันอกตัญญู
เค้าสู้อุตส่าห์ให้งานทำ ยังมีหน้ามากล่าวโทษ
.
.
เปล่าเลย เรากำลังอยู่ในวงจรของคำว่า business ตะหากเล่า
.
.
เค้าจ้างเรา เราทำงานเต็มที่
((เราไม่เคยใช้คำว่า ทำงานตามเงินเดือนเลยซักครั้ง))
.
.
เค้าโยนอะไรให้ทำ เราทำอย่างไม่ปริปาก
((แต่แอบมีน้ำตาซึมเล็กน้อย Y^Y))
.
.
เค้าให้เราชงแกแฟ เราทำให้อย่างเอร็ดอร่อย
((แอบแช่งบ่อยๆให้มันท้องเสีย เหมือนกัน))
.
.
เค้าสั่งให้เราทำสิ่งใด มักมาคู่กับคำว่า ต้องทำให้ได้ออกมาดีอย่างที่สุดเสมอ
((มัดมือชกสิ้นดี))
.
.
เค้าโยนงานเพิ่มให้ แต่ไม่มีเงินเพิ่นนะ เพิ่มแต่งาน
เราก็ยอมรับมาทำ และทำให้ดีออกมาดีที่สุดอย่างนั้นจริงๆ
((ทำไป ด่าไป ก็ต้องทำ))
.
.
เค้ามักพูดกะเราสั้นๆว่า
“I know you can do it”
เราก็มักจะก้มหน้า และพูดสั้นๆตอบกลับไปว่า
“I will try my best”((ถามกรุซักคำมั๊ยว่า กรุทำได้จริงๆหรือเปล่า))
.
.
นี่ไง ทั้งหมดนี่คือข้อแลกเปลี่ยนของกันและกัน
((ช่างเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกันจริงๆ))
.
.
เพราะฉนั้น มันก็สมควรแล้วมั้ง
ที่เราจะพ่วง ผลไม้ ลูกนั้นไว้ด้วย
.
.
เอาไว้เตือนสติ เอาไว้ตอกย้ำ เอาไว้บอกตัวเอง
เอาไว้รำลึกเสมอว่า “ความเกลียด” มันเป็นไง
สะใจว้อยยยยยยย !!!! ^^
.
.
ปล. นี่คือความจริงของโหมดชีวิตเรื่องงาน ที่ไม่มีใครรับรู้
.
ปล.1 นี่คือทุกขเวทนา ที่พิมต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตั้งแต่ 7.50-18.00 น. ของวันทำงาน
.
ปล.2 นี่คือความอึดอัด อัดอั้น เก็บกด ที่อยากระบาย
.
.
ปล.3 นี่คือความน่าอัปยศของส่วนนึงในชีวิตที่น่าอดสูสิ้นดี
.
.
ปล.4 เหนื่อยจัง
.
.

๑๐.๒๘.๒๕๕๑

จดหมาย.....ถึงแม่

เมื่อซักหลายวันที่ผ่านมามีเหตุทำให้
แม่!!! โทรติดต่อพิมไม่ได้
เลยเป็นเรื่องกระวนกระวาย เดือดร้อนวุ่นวาย ภายในหมู่คณะญาติ
ต้องตามหาลูกสาวผู้ไฉไล ^_____^
.
.
แต่เพราะ msn เลยทำให้ญาติผู้น้อง ((ซึ่งแอบมาอ่าน blog กรุประจำด้วยแหละ))
ติดต่อมา บอกว่า “ติดต่อหาแม่โดยด่วน”
.
.
เหอะๆๆๆ เอาหน่า รู้แล้วๆ ว่าทางบ้านเป็นห่วง
แหม...ทำตัวให้ติดต่อไม่ได้ ไม่กี่วันเองนะ
.
.
พิมเลยโทรกลับหาแม่
แล้วก็อ้าง สารพัดแหละที่ทำไมถึงติดต่อไม่ได้
.
.
งานนี้แม่เลยขอเบอร์ที่ทำงานไว้
ขอเบอร์คนโน้นไว้ ขอเบอร์คนนี้ไว้
เผื่อติดต่อลูกสาวไม่ได้อีก จะได้โทรตามหาตัวได้เจอ
.
.
แล้วแม่ก็ถามขึ้นมาว่า
.
.
“เบอร์ที่ให้นี้ เบอร์ใคร”
“อ้อ!!! เพื่อน ไง เพื่อนที่อยู่ด้วยกัน”
.
.
แม่ถามต่ออีกว่า
.
.
“เพื่อนเหรอ แล้วเป็นไง นิสัยดีมั๊ย?? เป็นคนที่ไหน??? อยู่ด้วยกันนานยัง??? นิสัยเหมือน “หนู”หรือเปล่า???”
_*_ ถามเยอะเกิ๊นแม่
“อืม.....นิสยดีเหมือนกันเด๊ะ!!! เลยแม่”
.
.
“แล้วเค้ามาอยู่ด้วยนานยัง มีเพื่อนมาอยู่ด้วยแล้วก็ไม่บอก”
“ก็เพิ่งมาอยู่ด้วยไม่นานนี่แหละ”
.
.
“งั้นก็ดีแล้ว จะได้ไม่เป็นห่วง ก็ดูแลกันไปนะ”
“จ้า มีไรก็โทรมาได้นะ ถ้าโทรหาเค้าไม่ได้ ก็โทรหาเบอร์เพื่อนนั่นแหละ”
.
.
อืม....
คราวนี้แม่ก็ไม่ต้องกังวลแล้วแหละ เพราะแม่จะรู้แล้วว่าถ้าติดต่อพิมไมได้ แม่ควรโทรหาใคร???
.
.
และจากวันนั้น คราวนี้ทุกครั้งที่แม่โทรมา แม่จะถามหาเพื่อนคนนี้
.
.
“เพื่อนล่ะ อยู่ไหน อยู่ด้วยกันหรือเปล่า???”
“ก็เนี่ย อยู่ด้วยกันนี่แหละ นั่งอยู่ข้างๆ”
.
.
เมื่อวันก่อนแม่ก็โทรมา ถามหาลูกหมาของพิม
“แล้วหมาล่ะ สบายดีเหรอ อยู่ยังไงกันบ้าง แล้วเพื่อนเค้ารังเกียจหมามั๊ย???”
“หมาสบายดี ทั้ง 4 ตัวจ้า เพื่อนก็อยู่เนี่ยแหละ ไม่รังเกียจหมาเค้ารักและเอ็นดูหมามาก”
.
.
แม่ชิงถามว่า
“รักหมา เหมือน “หนู”มั๊ย???”
“จ้า เหมือนกัน”
.
.
“เหรอ!!!!” ((แม่หัวเราะชอบใจ))
“อื้ม!!! เค้ารักหมา ดูแลอย่างดี เก็บขี้เก็บเยี่ยว หาข้าวหาน้ำ อย่างที่ “หนู”มันเคยทำ”
.
.
“จริงเหรอ!!!!” ((หัวเราะเอริ๊กอร๊าก)))
“จ้า เนี่ย ลูกแม่ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก มีมันคอยดูแล ทุกอย่าง สบาย 5555+ ”
.
.
“ก็ดีแล้ว ดูแลกันไป”
“จ้า สบายใจได้”
.
.
แหะๆๆๆ
.
.
เพราะความที่แม่รู้ว่า ตั้งแต่เพื่อนที่ชื่อ “หนู” ไม่ได้อยู่กะพิมแล้ว
พิมก็อยู่คนเดียวกะหมา 4 ตัว มาได้ซักพักใหญ่ แม่เลยจะเป็นห่วงมากๆ
กลัวว่าเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย จะไม่มีคนดูแล
.
.
ตอนนี้แม่คงหายห่วงแล้วเพราะอย่างน้อยแม่ก็รับรู้แล้วว่า
พิมมี “เพื่อน” คนใหม่มาดูแลอย่างดีมากๆแล้ว
.
.
แล้วแม่ก็ยิ่งหายห่วงหนัก เพราะรับรู้ว่า
เพื่อนคนนี้แสนดี อย่างเพื่อน “หนู” ที่พ่อกะแม่เคยเอ็นดู
.
.
เพราะแม่รู้ว่าพิมเอาแต่ใจ รู้ว่าพิมขี้โมโห รู้ว่าพิมขี้เกียจ รู้ว่าพิมเรื่องมาก
รู้ว่าพิมจู้จี้ ขี้บ่นน่ารำคาญ รู้ว่าพิมขี้โวยวาย
รู้ว่าพิมใจร้อน รู้ว่าพิมจะเอาอะไรต้องให้ได้อย่างใจ
รู้ว่าพิมบางทีแค่น้ำแก้วเดียว ยังขี้เกียจจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบดื่ม
รู้ว่าพิมเป็นอิคนช่างชี้นิ้วใช้ รู้ว่าพิมไม่เป็นระเบียบ รู้ว่าพิมบางทีก็ซกมก
รู้ว่าพิมกะเปิ๊บกะป๊าบ ไม่เรียบร้อย
.
.
แม่รู้นิสัยเสียหลายๆอย่างของพิม
.
.
แม่จึงรู้ว่า คนที่จะอยู่กะลูกสาวแม่ได้ ถึงจะไม่ต้องเป็นคนดีสำหรับคนทั้งโลก
แต่ขอแค่เค้าดีกะลูกสาวแม่ ก็พอ
เพราะแม่รู้ว่าอิพิมง่ะ มันร้ายยยย ใครอยู่กะมันได้ มันก็ต้องใจเย็นพอควร
และแม่ก็รู้ว่า ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้ ที่จะอยู่กะพิมได้ทุกคน
.
.
แต่แม่ยังไม่รู้หรอกว่า เวลาพิมเมา พิมเมาได้ยิ่งกว่าหมา
เมาแล้วขับรถน่าหวาดเสียว เมาแล้วอ้วก เมาแล้วงอแง งี่เง่า
.
.
วีรกรรมทั้งเวลาเมาและไม่เมา คงไม่ต้องบรรยาย
ถ้าแม่รับรู้ได้ว่า แม่คงจะรู้ว่า“เพื่อน” คนนี้เค้าต้องดูแลพิมดีแค่ไหน
.
.
เพราะนอกจากพิมแล้ว ยังต้องมีลูกๆอีกตั้ง 4 ตัว
ให้ “เพื่อน” คนนี้ดูแลด้วย
ทั้งเก็บขี้ เก็บเยี่ยว ให้ข้าวปลาอาหาร ซื้อของกินเล่นให้กิน
ป้อนของกินเล่นทีละตัวๆ อย่างเป็นระเบียบ
อาบน้ำให้เด็กๆ คอยเล่นกะเด็กๆอย่างสนุกสนาน
ดูข้าว ดูน้ำ อย่าให้พร่อง
.
.
ตอนนี้ชีวิตพิมสบายดีค่ะแม่
ตอนเช้ามีคนปลุกพิมให้อาบน้ำ
ยาสีฟันจะมีคนบีบให้อย่างเรียบร้อย
เสื้อผ้าทำงานของพิมมีคนรีดให้
กลางวันมีคนคอยถามว่าพิมทานอะไร
ตกเย็นมีคนรอพิมอยู่ที่ห้องพร้อมลูกๆแล้ว
.
.
กินข้าวเสร็จพิมไม่ต้องล้าง
ถึงห้องพิมไม่ต้องกวาด ไม่ต้องถู เพราะมีคนดูแลแล้ว
ห้องน้ำพิมไม่ต้องขัด เพราะเค้าทำได้ดีกว่าพิม
เสื้อผ้า ชุดชั้นใน พิมไม่ต้องซัก ไม่ต้องตาก เพราะเค้าสะอาดและเรียบร้อยกว่าพิมเยอะ
((แต่พิมพับผ้าเองนะแม่ เพราะพี่ลัคเคยสอนให้พิมพับผ้าเรียบร้อย))
เวลาพิมไม่สบาย หรือลมพิษขึ้น แม่ไม่ต้องห่วงนะ
เพราะว่าจะมีคน หาน้ำหายา มาเตรียมให้และบังคับให้พิมทานแล้ว _*_
.
.
เอ่อ.....สรุปทั้งหมดที่ว่ามา
ลูกแม่ได้ขี้เกียจนะ
แต่ “เพื่อน” คนนี้ เค้ายินดีทำให้หมดเลยค่ะ
.
.
เค้าบอกว่า พิม “แก่แล้ว” อย่าทำเลย เดี๋ยวเหนื่อย _*_ เหอะๆๆ
.
.
ปล. เรื่องอาหารการกินแม่ก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน
เค้าทำ ข้าวต้มหมู อร่อยที่สุดเลยค่ะ
อ้อ...แล้วเค้าทำ ผัดฟักทองใส่ใข่ หวานได้ใจ เหมือนที่แม่เคยทำให้ลูกกินเลยแหละ
แหะๆ ^^
.
.

๑๐.๒๗.๒๕๕๑

...ชีวิตที่พอเพียง...

จะมีความสุขอันใด
สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา
.
.
จะสุขเท่า วันได้หยุดพักผ่อน ส-อา
.
.
2 วันนี้ จะเป็นวันที่มีความสุขที่สุด
เพราะจะตื่นเวลาไหนก็ได้
.
.
เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา เป็นเวลา 7.30 น.
O_o ห๋า!!! สายๆๆๆ
.
.
>.< กิ๊ดๆๆ ด้วยความที่คิดว่า สายแล้วเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน
ก็ถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว
.
.
แต่ทันใด ก็นึกขึ้นมาได้ว่า
“ไอ้ห่า วันนี้วันอาทิตย์นี่หว่า” _*_
.
.
แล้วก็ฟรุ่บ!! นอนต่อ เหอะๆๆ ^^
นี่แหละหนา มันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง อิอิ
.
.
บางมีความสุขมันก็ไม่ต้องไปหาไกลนักหรอก
แค่เราได้นอนหลับบนที่นอน
แบบที่ไม่ต้องไม่ใครมากวนก็พอแล้ว
.
.
เป็นไง.....พอเพียงสิ้นดีเลยกรุ เหอะๆๆๆ -_-“
.
.
ปล.วันนี้อัพสั้นไปป่าวว่ะ
.
ปล. 1 ก็มันไม่รู้จะอัพอะไรนี่หว่า 555+
.
ปล.2 ตอนนี้เข้าสูตร 1 วัน 1 กิโล
.
ปล.3 ถามว่า จะอยากผอมไปไหน มิแซ๊บบบ
.
ปล.4 เคยผอมมาก แล้วคิดว่าดูดี
.
ปล.5 สุดท้ายกรุก็โดนทิ้งอยู่ดี
.
ปล.6 ส้าวววว ว่ะ Y^Y
.
ปล.7 สูตร 1 วัน 1 กิโล คือ
เช้าไข่ต้มเอาแต่ ไข่ขาว 3 ฟอง กลางวัน+เย็น แอ๊ปเปิ้ลเขียว 3 ใบ
.
ปล.8 แอ๊บเปิ้ลเขียว เปรี้ยวม๊ากกกก >.<
.
ปล.9 แถวบ้านกรุ เรียกว่า "เปรี้ยวไร้สกุล"
.
ปล.10 ขอหยุดแอ๊บเปิ้ลเขียวไว้ที่ 1 ลูก เพราะกรุแดรกไม่ลงจริงๆ _*_
.
ปล.11 เอาแอ๊บเปิ้ลเขียวมาจิ้มกินกะพริกเกลือแล้วรสชาดยังสถุลอยู่ -_-"
.
ปล.12 กรุเกลียดแอ๊บเปิ้ลเขียว ((กรุเพิ่งรู้ใจตัวเอง _*_ ))
.
.
.

๑๐.๒๔.๒๕๕๑

...My H0LiDay....

เมื่อวานวันหยุด
คิดว่าหลายๆคนก็คงได้หยุดกัน
.
.
ตั้งใจเอาไว้ว่าวันหยุดอย่างนี้
จะตื่นเช้าๆซะหน่อย ^^
ซัก 8 โมง 9 โมง
.
.
ปรากฏว่า เวลาตื่นจริงๆคือ
เกือบ 11 โมง -_-“
.
.
เอ่อ...ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งใจตื่นแต่เช้าทำไม
เพราะยังไงก็ตื่นสายตามปรกติอยู่ดี ฮ่วย!!!
.
.
แต่ตื่นมาแต่เช้า เอ่อ...ไม่สิ ตื่นมาแต่สาย
ท้องก็ร้องอยากกิน “ไข่ตุ๋น” ทันที
เพราะตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 20 ว่าเราจะตุ๋นไข่กินกันในวันที่ 23
(( เป็นไง plan ล่วงหน้าด้วย แค่ตุ๋นไข่เนี่ยนะ _*_))
.
.
แล้วก็คงเพราะอยากกินจัด
พอไข่สุกเท่านั้น วางยังไม่ทันหายร้อนดี
ก็ตักเข้าปากปรากฏว่ามันร้อน >.<
กินเข้าไปเลยลวกในปากซะงั้น -__-“ โง่จริง
.
.
แต่ก็โอเคนะ อร่อยดี นานๆทีถึงจะได้กิน
((พูดเหมือนเป็นของทำยากงั้นแหละเนอะกรุ))
.
.
จากนั้นก็เกิดกระแดะอยากกินผลไม้ล้างปาก
ก็สู้อุตส่าห์ไปซื้อถึงปากซอยเลยนะ. พยาย๊าม พยายาม
.
.
ตกบ่ายเปิดไปดูรายการ“วันหยุดสุดขีด”
น้องอิมพาไปกิน “ข้าวเกรียบปากหม้อ” ที่เมืองกาญฯ
>.< กิ๊ดๆๆๆๆ น่ากินๆ อยากกินๆ
.
.
และแล้วก็ได้กินด้วยแหละ
ถึงจะไม่ได้ไปถึงเมืองกาญฯก็เหอะ
แหะๆ อยู่บ้านสวนก็ดีอย่างนี้นี่เอง
อยากกินอะไรก็ได้กิน
.
.
ตกบ่ายคล้อย
โชคดีจัง ได้ gift voucher ดูหนังฟรีจาก major
เราเลยไปดู “ปืนใหญ่..จอมสลัด”
"ปืนใหญ่...จอมสลัด"
อื้มมมม หนังดูยิ่งใหญ่อลังการเหลือหลาย
หุหุหุ
.
.
ชอบอนันดาตอนขี่ปลากระเบนยักษ์ขึ้นมาเหนือน้ำ
พ่อเจ้าประคุณ เท่ห์ อิ๊บอ๋าย ^^
.
.
วันนี้ดูแล้วคนที่โรง major แจ้งฯคนเยอะเป็นพิเศษ
สงสัยจะเป็นเพราะวันหยุด และเป็นวันที่หนังเรื่องนี้เข้าวันแรก
.
.
เย็นวันหยุดปิดท้ายของกินถูกปาก
คือส้มตำไทย ปอเปี๊ยะสด และสุกี้น้ำ
กินซะพุงกางเลย แหะๆ _*_
.
.
และหนังเรื่องต่อไปที่คิดว่าเราไม่พลาดแน่ๆ
ก็คือเรื่องนี้นี่เอง
"โปรแกรมหน้า....วิญญาณอาฆาต"
ปล. ไอ้อ้อมจะไปดูเรื่องนี้ด้วย แต่บอกอ้อมไว้ว่า พี่จะไปดูตอนกลางวันนะ
กลางคืนกรุไม่ไปเด็ดขาดคร๊าบบบบบ กรุกั๊วววววว >.<
.
.
ปล 1. วันหยดุอย่างนี้เดินไปไหนมาไหน ทอมก็เดินกันให้ขวักไขว่
สบายตา หุหุหุ ^^
.
.
ปล.2 พรุ่งนี้ก็ได้หยุดอีก 2 วัน แล้ว เย๊ เย๊ !!
.
.
ปล.3 มีความสุขในแบบที่เป็นและไม่เบียดเบียนใครก็พอใจแระ ((ว่ะ))
.
.

๑๐.๒๑.๒๕๕๑

บ่นอุบ

ช่วงนี้เครียดอีกแล้ว
-_-"
.
.
เรื่องงาน
น่าเบื่อ
.
.
เจ้านาย
งก สาดดดดด
.
.
ลูกค้า
กวนตรีน
.
.
เซ็งว่ะ
.
.
สมัครงานกว่า 10 ที่
เวงกำ เงียบกริบ
((หรือว่ากรุเรียกค่าตัวสูงไปว่ะ))
.
.
ตอนนี้เครียดอยู่ 2 เรื่อง
.
.
เรื่องงาน
ที่ไม่วายเอากลับมาวิตกจริตที่บ้าน
.
.
เรื่อง นน.
บ่นตลอด
"เมื่อไหร่ กรุจะผอม"
-_-"
.
.
หาคำตอบวนเวียนอย่างนี้ไม่ได้ซะที
.
.
อิจฉา salesman ไม่ต้องเจอเหี้ยอะไรกดดัน
แต่ได้เงินเยอะแยะ
.
.
ลูกค้าไม่ไปหา แต่โกหกว่าไปก็ได้ตังก์ค่า allowance แล้ว
.
.
sale co อย่างกรุได้ห่าอะไร
นั่งตรูดบานที่ออฟฟิศ
.
.
งานเยอะ งานสุม ลูกค้าจิก
.
.
อิจฉาไอ้อ้อม
ถึงจะได้งานเยอะขึ้น เงินเท่าเดิม ((เหมือนกรุเลย))
.
.
แต่ดูน้องยังมีความสุข
กะการนั่งมองรูปแอ๊บแบ๊วของตัวเอง
อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
.
.
และน้องก็ยังมีความสุขกะการแชทคุยกะผู้ชาย
โดยเฉพาะฝรั่ง -_-"
.
.
หันไปหามันทีไร กรุก็เห็นว่า
แมร่งไม่แชท
ก็ดูรูป act หากินของมันทู๊กกกที
.
.
กรุจะบ้าตาย _*_
.
.
แต่มันก็มีความสุขในแบบของมัน
โดยที่ใครๆยังไม่ ((ถึงเวลา)) เดือดร้อน
((ก็ถ้ามรึงลืมโอนเงินเดือน งานนี้มีเฮแน่ อิน้องนางเอ๋ย))
.
.
เฮ้อ!!! เบื่อ!!!
.
.
จะสิ้นเดือนแล้ว
ชีวิตกรุก็เหมือนจะสิ้นใจไปทุกทีๆ
.
.
ใครสั่งใครสอนให้กรุมีหนี้ท่วมหัวว่ะสาด
.
.
ช่างแมร่ง
ไม่มี ไม่หนี จ่ายช้า
เท่านั้นแหละ 5555+
.
.
เพื่อน saleman แอบไปสัมภาษณ์งานที่ ยุดยา
แม่เจ้า!!! เค้ารับแล้วและให้มัน 40K
.
มัน say no ไป บอกว่าสมัครเล่นๆ
สัมภาษณ์ขำๆ ไม่คิดว่าเค้าจะให้จริงๆ
ไกลไป กรุไม่ไปหรอก
.
.
ไอ้สาดดดด
.
.
แค่นั้นไม่ช้ำใจเท่า
มันบอกว่า
.
.
จริงๆแล้ว สโคปงาน
มันก็ไม่ต่างอะไรจากที่มรึงทำหรอก
เพราะเท่าที่กรุไปคุยกะมัน
นี่มันงานมรึงชัดๆ มรึงลองไปดิกรุว่าได้
.
.
เอ้า!!! อิเหี้ย!!!!
แล้วมรึงจะให้กรุลองบากหน้าไปหานรกวิมานอะไรมิแซ๊บบบบ
.
.
มรึงกะกรุก็อยู่องค์กรเดียวกัน
มรึงเล่น say no มันไปแล้ว
แล้วเค้าจะยังเชื่อน้ำหน้าคนที่มาจากที่เดียวกันเหรอ
.
.
ไอ้สาดดดดด
เสียเครดิตไปแล้วชัดๆ
((คือว่า มีคนจากออฟฟิศพิม แอบไปสมัครและสัมภาษณ์แล้ว 2 คน
แล้วมันก็ได้ ทั้ง 2 คนเลยนะ แต่มันก็ say no ทั้ง 2 คน))
.
.
กิ๊ดๆๆๆๆ ไอ้เลว >.<
.
.
เสียดายว่ะ
Y^Y
.
.
ปล.
ทุกวันนี้งานเยอะมาก
ไม่มีเวลาเล่นเอ็ม
ไม่มีเวลาเล่นเน็ท
ไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำ ((งานเยอะก็ลืม แล้วอั้นไว้))
หิวน้ำก็ลืมดื่มจนคอแห้งผาด
ทะเลาะกะลูกค้าหน้าดำคร่ำเครียด
แต่.
.
.
เงินได้เท่าเดิม 5555+
.
.
.
อ้อ!!!ยังมีเวลาเข้า jobtopgun jobthai jobsdb นะ หุหุหุ
.
.
^^

๑๐.๒๐.๒๕๕๑

ศุกร์เมา เสาร์เข้า รพ.

เมื่อวัน ศ ไปเมามา
เหอะๆๆ
.
.
ไปเมาแบบของฟรีอะค่ะ
เลยแดรกล้างผลาญกระจายไปเลยทีเดียว
.
.
เป็นงานเลี้ยงอำลาของพี่ที่ทำงาน
ที่ไปได้ดิบได้ดีอีก 1 คน
((อิจฉาๆ กิ๊ดๆๆๆ >.<))
.
.
เราไปเลี้ยงกันแถวรัชดา
ร้านนี้เคยไปครั้งนึงแล้ว
แต่ที่ไปอีก เพราะคาราโอเกะที่นี่มีเพลงเกาหลี
พอให้เจ้านายได้ ((แหกปาก))ร้องเพลงบ้าง
.
.
ที่ทำงานพิม เรามี concept ในการกินเลี้ยงทุกครั้งว่า
“สั่งได้เลย ไม่อั้น ฮิ้วววว”
.
.
งานนี้ขาพเจ้าเลยเมาด้วย cocktail 6 ชนิดเลยเลยทีเดียว
ตั้งแต่ กามิกาเซ่ , sex on the beach , ไหมไทย , มาการิต้า , บลูฮาวาย
และปิดท้ายด้วยความเร่าร้อนอย่าง B 52
.
.
กลับถึงบ้านแบบอาการ พิม พริ้มเลยทีเดียว หุหุหุ
.
.
"บรรยากาศที่ร้าน"
"ซาซิมิ bird wings ((อะไรซักอย่าง))"
"ซาซิมิแซลมอน"
"กามิการเซ่"
"sex on the beach"
"ไหมไทย"
"มาตาริก้า"
"บลูฮาวาย"
"1 ขวด 300บาท รินได้ 4 แก้ว แพงกว่าเหล้าปั่นเยอะ ทั้งที่รสชาด เหมือนกันเด๊ะ!!"
"B 52"
"เริ่มเมาแล้ว step 1" "เริ่มเมาแล้ว step 2" "เริ่มเมาแล้ว step 3"
"เริ่มเมาแล้ว step 4"
"เริ่มเมาแล้ว step 5"
"เริ่มเมาแล้ว step 6" กลับบ้านดีกว่า
.
.
พอวัน ส ก็ต้องตื่นแต่เช้า
หื้อออ!!! ไม่หรอก โกหกง่ะ
ตื่นเที่ยงไปหาหมอ ที่รพ.
.
.
เอาอีกแล้ว ไปหาหมออีกแล้ว
คราวนี้ก็เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ((เหมือนเคย))
.
.
อาการคือบริเวณผิวหน้าและลำคอ
แห้งและเป็นขุย
.
.
ก็ถ้าเป็นคนอื่น ทาครีมก็อาจหายไปแล้ว
((กะอิแค่ผิวแห้งนี่นา))
แต่พิมทำมาตั้งแต่ เลิกใช้โฟมล้างหน้า
ทาครีม ทาออยล์ ทานีเวีย((แบบครีมเข้มข้นเป็นตลับ))
ก็ไม่หาย _*_ ฮ่วย!!!
.
.
ความจริงมีอาการมาได้ซักพักแล้ว
แค่อาการไม่ดีขึ้น ((แต่ลุกลามไปถึงหูและต้นคอ))
เลยไปหาหมอดีกว่า
.
.
หมอตรวจๆดู ให้เราหันซ้ายหันขวา
แล้วก็ถามว่า
.
.
“ก่อนหน้านี้ทานยาอะไรมาหรือเปล่า??”
“เปล่าค่ะ”
.
.
“ได้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ บำรุงผิว หรือเครื่องสำอางค์มั๊ยค่ะ???”
“เปล่าค่ะ”
.
.
“เจอแดดแรงๆบ่อยมั๊ย???”
“เปล่าค่ะ”
.
.
“อืม....ตอนนี้ผิวบางมาก งั้นก็เลิกใช้เครื่องสำอางค์ทุกอย่างนะค่ะ เอายาหมอไปทา
รอดูผล 1 อาทิตย์แล้วมาดูใหม่ ว่าจะทุเลามั๊ย หมอก็อยากรู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน”
“ค่ะ”
.
.
แล้วพิมก็ได้ยาแก้แพ้มาทาน พร้อมยาทาผิว
พิมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพิมเป็นอะไรว้า????
.
.
หรือว่า แพ้น้ำลายทอม กร๊ากๆๆๆๆ ^______^
.
.

๑๐.๑๗.๒๕๕๑

ความจริงของ "อาร์ตตัวแม่"

ส่วนหนึ่งในความจริงของ "อาร์ตตัวแม่"
.
.
เราขี้งอน
บางทีก็แค่อยากอ้อนคุณ
.
.
เราร้องไห้
บางทีก็แค่อยากให้คุณปลอบ
.
.
เรายิ้ม
เพราะเราคิดถึงบางคำที่คุณพูด
.
.
เราหัวเราะ
เพราะบางที คุณแมร่งก็บ้า
.
.
เราเหงา
เพราะบางทีคุณก็ไม่สนใจ
.
.
เราเอาแต่ใจ
เพราะเรารู้ว่าเราต้องชนะ
.
.
เรางอแง
เพราะบางทีคุณก็ชอบแกล้งเรา
.
.
เราโวยวาย
เพราะเราอยากเรียกร้องความสนใจจากคุณ
.
.
เราโมโห
เพราะบ่อยครั้งที่คุณมักกวนตรีน
.
.
เราหงุดหงิด
เพราะบางทีคุณก็ไม่ได้ดั่งใจ
.
.
เราเสียงดัง
เพราะเราแค่อยากให้คุณฟังเราบ้าง
.
.
เราจู้จี้
เพราะบางทีเราก็หวังดีมากเกินไป
.
.
เราขี้บ่น
เพราะเรารู้ว่าคุณไม่สนใจฟังนักหรอก
.
.
เราเรื่องมาก
ก็แค่อยากให้คุณออกมาดูดี
.
.
เราขี้หึง
เพราะเราให้เกียตริคนที่เรารัก
.
.
เรารักสวยรักงาม
ก็แค่อยากให้คุณเดินควงแล้วไม่อายใคร
.
.
เรางก
เพราะอยากให้คุณรู้จักการประหยัด
.
.
เราดีใจ
เพียงแค่คุณเข้ากับเพื่อนเราได้
.
.
เราเสียใจ
ที่คุณไม่ปรับตัวเองให้เข้ากะใครได้เลย
.
.
เราร่าเริง
เพียงแค่รู้ว่า เย็นนี้กลับไปเราจะได้เจอคุณ
.
.
เราระแวง
เพราะบางทีคุณแมร่งก็เจ้าชู้
.
.
เรางี่เง่า
เพราะเราไม่ได้รับตำตอบที่พอใจ
.
.
เราดื้อ
เพราะคุณมักไม่ยอมตามใจ
.
.
เรานิ่งเฉย
เพราะอยากให้คุณปล่อยวางบ้าง
.
.
เราน้อยใจ
เพราะบางทีคุณก็ลืมวันสำคัญ.
.
.
เราเถียง
เพราะบางทีคุณก็ไม่ได้ถูกเสมอไป
.
.
เราเจ็บ
เพียงแค่รู้ว่าคุณไปปลื้มใคร
.
.
เราโกรธ
ที่บางทีคุณก็ไม่ยอมรับความจริง
.
.
เราปั้นปึ่ง
เพราะทิฐิคุณสูงเกินไป
.
.
เราห่วง
เพราะบางทีคุณก็ไม่ยอมโตซักที
.
.
เราหวง
เพราะคุณมันใจดีกะสาวๆเกินไป
.
.
เราฟุ้งซ่าน
เพราะบางทีคุณก็ไม่ยอมพูดความจริง
.
.
เราปากจัด
เพราะบางทีพูดดีๆ คุณก็ไม่รู้เรื่อง
.
.
เราโกหก
เพราะบางทีคุณก็รับความจริงไม่ได้
.
.
เราจับผิด
เพราะคุณมันชอบตอแหล
.
.
เรา((แกล้ง)โง่
เพราะคุณมันชอบอวดฉลาด
.
.
เรา ((แอบ))เจ้าชู้
เพราะอยากให้คุณเห็นค่าเราบ้าง
.
.
เราวุ่นวาย
เพียงอยากให้คุณรู้ว่า ยังมีเราอยู่ข้างๆ
.
.
เราอดทน
เพราะแค่อยากใช้ชีวิตกับคุณไปนานๆ
.
.
เราจับมือ
เพราะเราอยากเดินไปพร้อมๆกันกับคุณ
.
.
เราหอม
เพราะเราอยากให้รู้ว่าแก้มคุณหอมที่สุด
.
.
เราแคร์
เพราะเรามีแค่คุณ
.
.
และ
.
.
เรา “รัก”
เพราะมันคือคุณ แค่นั้นจริงๆ
.
.